Sunday, 20 October 2024

นายกฯ เลือกฝ้ายครามสกลนครคล้องคอ เชื่อมั่นปีหน้าไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก

ของดีต้องอวดหน่อย นายกฯ เลือก “ฝ้ายครามสกลนคร” คล้องคอ ร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ เชื่อมั่นศักยภาพไทยผงาดสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มากกว่าแบบเดิม ลั่น ปีหน้าเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ยกระดับการท่องเที่ยวสู่จุดหมายปลายทางระดับโลกวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และ X (ทวิตเตอร์) ว่า ก่อนขึ้นกล่าววิสัยทัศน์ในงาน Internationale Tourismus-Börse Berlin ๒๐๒๔ (ITB Berlin ๒๐๒๔) ได้เดินชมบูธของประเทศไทยซึ่งมีหลายจังหวัดเข้ามาร่วมแสดง และได้เดินชมบูธของประเทศต่างๆ ที่มาร่วมจัดแสดงในงานด้วย และเนื่องจากมาร่วมบูธของประเทศไทย ตนเองจึงได้เลือกเอาฝ้ายครามธรรมชาติของ จ.สกลนคร มาคล้องคอ สีครามเมืองสกล เป็นสีย้อมผ้าที่เก่าแก่ที่สุด ถูกขนานนามว่าเป็นราชาแห่งสีย้อม ของดีต้องขออวดหน่อย“ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพอีกมาก รอเพียงโอกาส และสนับสนุนผลักดันให้เปล่งประกาย ที่ผ่านมาเราอาจจะยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้ศึกษาดูการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวของประเทศอื่นๆ ผมว่าจากนี้เราต้องมองให้ใหญ่กว่าที่เราเคยคิดไว้ ถึงเวลาแล้วที่ไทยจะเป็น Tourism Hub ที่มากกว่าแบบเดิมๆ ครับ” จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ต่อไปอีกว่า ITB Berlin เป็นงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๗ มีนาคม โดยมีทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากกว่า ๑๘๐ ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศตนเอง ไทยเองก็เช่นกันสำหรับปี ๒๐๒๔ นี้ ไทยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ ๓.๕ ล้านล้านบาท โดย ๒.๓ ล้านล้านบาท มาจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เราคาดว่าจะมีนักเดินทางจากยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยกว่า ๘.๕ ล้านคน เป็นรายได้ ๖๗๐,๐๐๐ ล้านบาท (๑๗,๐๐๐ ล้านยูโร) รัฐบาลตั้งใจให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) เป็นโฮมสเตย์ (Homestay) ของคนทั่วโลก เราจึงมีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ปรับปรุงความสะดวกในการเดินทางเช่นการยกเว้นวีซ่าชั่วคราว พร้อมผลักดันให้เกิด One Visa, Free your Destination เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคร่วมกัน  “นอกจากนี้ เราจะหยิบเอาของดีที่มีอยู่ทุกเมืองในประเทศไทยมานำเสนอ Soft Power ไทยต้องเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เราจะสนับสนุนศักยภาพของทุกจังหวัด เพื่อให้ทุกเมืองของเราเป็นเมืองท่องเที่ยวครับ แล้วปีหน้าเราจะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวสู่ World Class Destination จุดหมายปลายทางระดับโลก แล้วจะกลับมาจัดงานที่ ITB อย่างยิ่งใหญ่แบบ Real Touch ท่องเที่ยวไทยครับ” นายกรัฐมนตรี ยังระบุต่อไปด่วยว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลได้เตรียมการทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เรื่องสนามบิน ตามเป้าหมายที่เราต้องการจะเป็น Aviation Hub โดยขยายศักยภาพสนามบินเดิม และมีแผนสร้างสนามบินใหม่ ซึ่งได้แก่ สนามบินอันดามัน และสนามบินล้านนา ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบิน ตั้งแต่ระบบ ground โดยนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการบริการด้วยความสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งขาเข้าและขาออก ตารางเวลาบินจะต้องปรับ ให้การเดินทางไปและมาจากต่างประเทศมีความสะดวก ลดค่าธรรมเนียมการลงจอด และเพิ่มค่าใช้จ่ายกรณีเที่ยวบินล่าช้า เพื่อให้เราสามารถรองรับเที่ยวบินได้มากขึ้น และการดำเนินการทั้งในส่วนของภาคพื้นและการบิน จะต้องเป็นไปตามมาตฐานความปลอดภัย.