“ธรรมนัส” ประกาศพร้อมทำสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ มอบ ส.ป.ก. ทำหนังสือเข้าหารือ ปปง.ร่วมตรวจสอบบุคคล-กลุ่มนายทุนทำผิด เข้าข่าย ก.ม.ฟอกเงิน วันจันทร์ที่ ๑๑ มีนาคมตั้งทีมสแกนเอกสารสิทธิทั่วประเทศ ง้างดาบรอฟันทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนกระทำความผิด ประกาศจะลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาขั้นสูงสุดทันที รวมทั้ง ดำเนินคดีผู้สวมสิทธิ์เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ไม่ใช่เกษตรกรอีกด้วย ส่วน One Map ให้ทุกหน่วยงาน ใช้เป็นแผนที่หลัก เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งหมดเมื่อวันที่ ๘ มี.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ มีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ที่ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานส.ป.ก. ว่า จากกรณีข้อพิพาทแนวเขตที่ดินของรัฐในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ประชุม คปก.มีมติเห็นชอบ การตรวจสอบเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ของผู้ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.ไปแล้วจำนวน ๓๖,๔๙๘,๘๘๓ ไร่ เพื่อพิจารณาและสรุปผลการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ว่า ถือครองโดยเกษตรกรตัวจริง ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดที่ดินหรือไม่ เป็นเกษตรกรจริงหรือเป็นกลุ่มนายทุน จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลเสนอต่อคณะกรรมการในระดับสูงขึ้น โดยมีตนเป็นประธาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปปง. ป.ป.ช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับอีก ๙ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ เป็นต้น โดยจะมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาบท ลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด หลังผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯในชั้นต้นแล้วรมว.เกษตรฯกล่าวต่อว่า หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนกระทำความผิด จะลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาขั้นสูงสุดทันที รวมทั้งผู้สวมสิทธิ์เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ไม่ใช่เกษตรกรอีกด้วย ทั้งนี้ ให้รอคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่ One Map ดำเนินการเสร็จก่อน กระทรวงเกษตรฯ โดย ส.ป.ก.พร้อมเปิดศึกทำสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศทันที“การลงโทษดังกล่าว จะลงโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งผู้ให้และผู้รับที่ดิน ส.ป.ก.ที่ผิดกฎหมายขั้นเด็ดขาด จะเริ่มต้นที่เขาใหญ่เป็นแห่งแรก ยืนยันจะไม่มีการจับแพะแน่นอน จะนำผู้กระทำผิดมาชำแหละให้สังคมทราบ ใครทำผิดต้องโดนลงโทษแน่นอน หากมีข้าราชการผิด จะโดนวินัยร้ายแรงและโดนคดีอาญา ส่วนผู้รับจะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด โดยจะให้ ปปง.มาตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดหนีไม่พ้นแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนอำนาจในการเพิกถอนสิทธิ์หลังจากตรวจสอบพบว่า ผู้ถือครองไม่ใช่เกษตรกรจริง ถือเป็นอำนาจ ส.ป.ก.ในกฎหมายชัดเจนในการให้อำนาจและพร้อมดำเนินการทันที ส่วนเรื่อง One Map เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องใช้เป็นแผนที่หลัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งที่ทุกคนต้องยอมรับซึ่งต้องรอผลการดำเนินการ และถือเป็นข้อยุติปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดด้วย” ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกด้านวันเดียวกัน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขอความอนุเคราะห์ในการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน ระบุว่า ส.ป.ก.ตรวจสอบพบว่ามีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร บุคคลบางคนบางกลุ่มและกลุ่มนายทุนได้กระทำความผิดในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น ลักลอบขุดดินเพื่อนำออกจำหน่าย และการใช้ประโยชน์ในที่ดินผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเพื่อการค้าหรือเพื่อการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจำนวนมากในหนังสือระบุอีกว่า กระบวนการตามกฎหมายปกติ ไม่สามารถจัดการปัญหาหรือสร้างความยำเกรงให้แก่ผู้กระทำความผิดได้ หรือผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์น่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือความสงบเรียบร้อยในสังคม หรือเป็นผู้มีอิทธิพลหรือเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล นักการเมือง หรือข้าราชการระดับสูง ส.ป.ก.เห็นว่ากรณีดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มีลักษณะเป็นการค้าเข้าองค์ประกอบเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา ๓ (๑๕) แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นไปแล้วหนังสือยังระบุอีกว่า เพื่อให้การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม บรรลุผลตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและเพื่อตัดวงจรการฟอกเงิน มิให้ผู้กระทำความผิดหรือผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปหมุนเวียน หรือใช้ประโยชน์ในการก่ออาชญากรรม ประกอบกับที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายให้ ส.ป.ก.หารือร่วมกับสำนักงาน ปปง.กำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกันและดำเนินการทางกฎหมาย กับผู้กระทำความผิดตามมูลฐานดังกล่าว ส.ป.ก.จึงขอความอนุเคราะห์หารือร่วมกันกับสำนักงาน ปปง.ในวันจันทร์ที่ ๑๑ มี.ค. เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ สำนักงาน ปปง.ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์หนังสือฉบับดังกล่าว ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมระบุว่า“ผมพร้อมทำสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศครับ”อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
"ธรรมนัส" ทําสงคราม ฟันนายทุนเขมือบ ส.ป.ก.ลั่นตรวจสอบทั่วประเทศ ดึง ปปง.เช็กเส้นทางเงิน
Related posts