ภูเก็ต- “โสภณ สุวรรณรัตน์” ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แถลง หลัง “กระทรวงมหาดไทย๑” สั่งบินกลับด่วนจากต่างประเทศ สางคดี “เดวิด” ฝรั่งเตะหมอ และทวงคืนชายหาดทั่วเกาะ ขณะที่ผู้การฯ จังหวัด เร่งกวาดล้างชาวต่างชาติทำผิด ก.ม.ส่งกลับประเทศเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. วันที่ ๙ มีนาคม๖๗ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดี นายเดวิด หรือ นาย URS.BEAT FEHR อายุ ๔๖ ปี นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ทำร้ายร่างกาย พญ.ธารดาว จันทร์ดำ แพทย์เวชศาสตร์ปฏิบัติการ รพ.เอกชนชื่อดัง จ.ภูเก็ต ขณะนั่งชมพระจันทร์ในคืนวันมาฆบูชา ๒๔ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนบานปลายมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบแนวเขตบันไดบริเวณจุดเกิดเหตุและรื้อในเวลาต่อมา ขณะที่มีการเพิกถอนวีซ่านายเดวิดและส่งตัวให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ดำเนินการต่อตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าตรวจสอบแนวเขตของวิลล่าทั้ง ๓๒ หลัง และ นส.๓ ก.กว่า ๑๐๐ ไร่ริมหาดพอยท์ ยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีข้อสงสัยในพื้นที่ดังกล่าว นายโสภณ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย เป็นห่วงเป็นใยพื้นที่ จ.ภูเก็ต เนื่องจากที่ผ่านมามีเรื่อง และเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในขณะที่ตนเองในฐานะ ผู้ว่าราชการจังหวัดไปร่วมงานโรดโชว์ที่ต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ได้สั่งการให้เดินทางกลับโดยด่วน เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องนายเดวิด ปางช้าง มูลนิธิ การเพิกถอนวีซ่า การเพิกถอนใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน พญ.ธารดาว การบุกรุกชายหาด การปิดกั้นชายหาดและการทวงคืนชายหาดต่างๆ รอบเกาะภูเก็ตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งความจริงแล้วในช่วงที่เดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ท่องเที่ยวที่ต่างประเทศนั้น ได้มีการมอบหมายให้รอง ผวจ.ดูแลและรับผิดชอบงานในส่วนต่างๆ ไปแล้ว และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้มีการประสานงานกันกับรอง ผวจ.ภูเก็ต ตลอด โดยในส่วนของคดีความต่างๆ ที่เกิดเหตุเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ซึ่งทุกฝ่ายยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มกำลังตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาดีและเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”คดีนายเดวิด เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ขั้นตอนของกฎหมายมีการปฏิบัติเหมือนกับผู้กระทำความผิดที่เป็นคนไทยทุกขั้นตอน นอกเหนือจากการเพิกถอนวีซ่า เป็นขั้นตอนของ สตม.โดยตรง ส่วนกระทรวงมหาดไทย จะพิจารณากรณีมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งการเพิกถอนวีซ่า เป็นอำนาจโดยตรงของกระทรวงมหาดไทย โดย รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยเป็นผู้พิจารณา ส่วนกรณีการตรวจสอบแนวเขต หรือการตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณหรือชายหาดในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลตำบลป่าคลอก สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง นายอำเภอถลาง เจ้าท่าภูมิภาค เป็นต้น ซึ่งทุกฝ่ายได้สนธิกำลังลงพื้นที่กันอย่างเต็มที่มาตลอด ทุกอย่างมีการปฏิบัติงานเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว อยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่า เราไม่ได้มีการยกเว้นผู้กระทำความผิด ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นชาวต่างชาตหรือคนไทย ซึ่งมีการกระทำความผิดในบ้านเรา” ผวจ.ภูเก็ต กล่าวนายโสภณ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบพบอาวุธปืนที่มีนายเดวิดและมูลนิธิได้รับอนุญาตครอบครองนั้น ขณะนี้ได้ยื่นเพิกถอนอาวุธปืนทั้ง ๒ กระบอกแล้ว ทั้งปืนสั้นและปืนยาว โดยนายเดวิดได้นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ ซึ่งทั้ง ๒ กระบอกได้รับอนุญาตครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องผู้ครองครองมีพฤติกรรมอาจเป็นภัยต่อสังคม หรือพี่น้องประชาชนชาวไทยในพื้นที่ จึงต้องเพิกถอนใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งเป็นอำนาจโดยชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผวจ.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมด้วย กรณีที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่เริ่มออกมาเรียกร้องและตรวจสอบการปิดกั้นทางลงชายหาดสาธารณะทั่วเกาะภูเก็ตนั้น เป็นสิ่งที่ดีและสามารถทำได้ โดยแต่ละพื้นที่ที่ประชาชนออกมาเรียกร้องนั้น เช่น หาดแหลมหงา ต.รัษฎา อ.เมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยเจรจากับเจ้าของที่ดินอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดสิ่งปิดกั้นทางลงหาดเป็นการถาวร โดยจะให้เทศบาลตำบลรัษฎา จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ดูแลจัดเก็บขยะมูลฝอยบริเวณชายหาด เพิ่มแสงสว่าง กล้องวงจรปิด เป็นต้น ซึ่งคาดว่าไม่น่ามีปัญหาในการพูดคุยแต่อย่างใด “ส่วนกรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทและมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับนายเดวิดนั้น เบื้องต้น เราพบว่าตราสัญลักษณ์ที่ทางบริษัทกับมูลนิธิเป็นตราลักษณะที่คล้ายกันหรือเหมือนกัน ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว และน่าจะเข้าข่ายไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งอาจมีการดำเนินการในส่วนมูลนิธิตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป รวมไปถึงการฟอกเงิน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ จะเข้าพบตนเองในวันที่ ๑๕ มีนาคมนี้ เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว” ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่ มกราคมถึงวันที่ ๘ มีนาคม๖๗ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดย สภ.ต่างๆ ในพื้นที่ได้มีการจับกุมชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย เช่น ให้เช่ารถ ขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว อยู่เกินวีซ่า จำนวน ๓๓ ราย โดยได้ดำเนินการตามกฎหมายไปแล้ว รวมถึงการผลักดันกลับประเทศ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีนายเดวิดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ ส่วนการเพิกถอนวีซ่าอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ของบุคคลที่ถูกเพิกถอน และจะเป็นในส่วนการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แจงสารพัดปัญหา หลัง "อนุทิน" เรียกกลับด่วน ยันทุกอย่างออกมาดี
Related posts