พรรคก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลด้วยเงื่อนไขเดียวคือต้องชนะเลือกตั้งได้ สส.เกินครึ่งสภาฯดังนั้น พรรคก้าวไกลต้องบุกแหลกชิงฐานคะแนนเลือกตั้งจากคู่แข่งทุกพรรคการเมืองกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ๓๕ ล้านคน จึงเป็นเป้าหมายใหญ่ที่ต้องดึงมาเป็นฐานเสียงหลักของพรรคก้าวไกลนี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลเสนอ “ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน” ให้โดนใจพี่น้องผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง!!“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานเสนอโดย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โดน สส.พรรคร่วมรัฐบาลโหวตคว่ำกลางสภาฯเพราะหากปล่อยให้ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานของพรรคก้าวไกลคลอดออกมาประกาศใช้ กลุ่มผู้ใช้แรงงานจะเทเสียงเลือกพรรคก้าวไกลอย่างมืดฟ้ามัวดินพูดตรงๆนี่คือเกมเตะสกัดพรรคก้าวไกลไม่ให้เป็นรัฐบาล!!“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานของพรรคก้าวไกลที่ถูกเขี่ยตกใต้ถุนสภาฯ มีสาระสำคัญ ๗ ประการดังนี้คือ…๑, นายจ้างต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปีให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่แท้จริง เพื่อให้ลูกจ้างมีรายได้เพียงพอมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง๒, เปลี่ยนระบบการจ้างงานรายวันเป็นรายเดือน เพื่อให้ลูกจ้างรายวันได้รับสวัสดิการที่เป็นธรรมเท่าเทียมกับลูกจ้างรายเดือน๓, กำหนดชั่วโมงทำงานไม่เกิน ๔๐ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องมีวันหยุดสัปดาห์ละ ๒ วันงานรับจ้างที่อาจเสี่ยงอันตรายให้ทำงานไม่เกิน ๓๕ ชั่วโมงต่อสัปดาห์๔, ขยายวันพักร้อนลูกจ้างจากปีละ ๖ วัน เป็นปีละ ๑๐ วัน เพื่อให้โอกาสลูกจ้างได้ผ่อนคลายกับครอบครัว๕, เพิ่มสิทธิลูกจ้างลาคลอดจาก ๙๘ วัน เป็น ๑๘๐ วัน เพื่อให้มารดาให้นมลูกครบ ๖ เดือน๖, เปิดโอกาสให้ลูกจ้างลางานไปดูแลบุคคลในครอบครัวที่เจ็บป่วยไม่เกิน ๑๕ วันทำงานต่อปี๗, ขยายสิทธิความคุ้มครองลูกจ้างฟรีแลนซ์ ไรเดอร์ แม่บ้าน แม่ครัว ผู้รับจ้างอิสระ และลูกจ้างประเภทอื่น ฯลฯ ให้ได้รับสิทธิจาก พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานครบวงจร“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานของพรรคก้าวไกลจะทำให้ลูกจ้างได้ประโยชน์เท่าเทียมมาตรฐานอินเตอร์แต่เงื่อนไขมันสูงเกินไปในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเพราะจะเพิ่มภาระให้นายจ้างต้องแบกค่าใช้จ่ายมากขึ้นอีก ๓๐ เปอร์เซ็นต์สวนทางกับวันทำงานที่ลดลงจากปีละ ๒๘๙ วัน เหลือ ๒๑๘ วัน“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีเมื่อต้องแบกรับรายจ่ายเพิ่มขึ้นแต่รายได้ลดลงสุดท้ายต้องเจ๊งสถานเดียว!!แทนที่ร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้จะทำให้ลูกจ้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีอาชีพการงานที่มั่นคงกลับต้องตกงานกันระนาวเรื่องมันเศร้าอย่างนี้แหละโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
