“บิ๊กราญ” สั่ง “บก.จร.” วางแผนสกัดปราบเด็กแว้นรวมตัวแข่งรถ บริเวณถนนวิภาวดี เผยรวบได้ ๗ คัน โดนข้อหาใหม่ทั้งปรับหนัก ริบรถ ทำทัณฑ์บนบริการ สังคม ๑ ปี ทั้งนี้หาก ปชช.พบเห็นสามารถแจ้ง ๑๙๑ หรือ ๑๕๙๙ ได้ตลอด ๒๔ ชม.เมื่อวันที่ ๑๐ มี.ค. ๖๗ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี จับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ออกมารวมตัวกันเตรียมแข่งรถ บนถนนวิภาวดีรังสิต ว่า ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ผ่านสายด่วน ๑๕๙๙ และ ๑๙๑ ว่าพบรถจักรยานยนต์ รวมกลุ่มกันหลายคัน บนถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงเวลากลางคืน จากนั้นจะแข่งกันตลอดคืน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยในละแวกนั้น จึงได้สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร., พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.๒ บก.จร. และ พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิตทางพิเศษ กก.๒ บก.จร. ดำเนินการลงพื้นที่สืบสวนวางแผน และนำมาซึ่งการจับกุม โดยเมื่อวันที่ ๘ มี.ค. ๖๗ เวลา ๐๓.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ได้ จำนวน ๗ คัน, รถยนต์กระบะ ๑ คัน พร้อมด้วยผู้ต้องหา ๗ คน ทราบชื่อในภายหลัง คือ ๑.นายธรรมรัสมิ์ อายุ ๒๗ ปี, ๒.นายอภิวัฒน์ อายุ ๑๙ ปี, ๓.นายอนุสรณ์ อายุ ๒๖ ปี, ๔.นายธาวิน อายุ ๒๐ ปี, ๕.นายธรรมนูญ อายุ ๒๓ ปี, ๖.นายคชรัตน์ อายุ ๒๑ ปี และ ๗.นายธนกร อายุ ๒๔ ปี ผู้ต้องหาทั้ง ๗ ราย ให้การรับสารภาพว่าพวกตนได้มารวมตัวกันบน ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อจะแข่งรถกันบนถนนจริง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนเข้าจับกุมตัว ต่อมาศาลแขวงดอนเมือง พิพากษาจำเลยที่ ๑-๖ จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๖,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๗ เจ้าของรถยนต์กระบะ (ผู้สนับสนุนแข่งรถในทาง) จำคุก ๒๐ วันปรับ ๔,๐๐๐ บาท โทษจำคุกรอ ๑ ปี บริการสังคม ๒๔ ชั่วโมง และศาลริบรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของกลางทุกคัน ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน ๑๙๑ หรือ ๑๕๙๙ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง.
