เห็ดฟาง…ถือเป็นเห็ดยอดนิยมในประเทศไทย มีปริมาณการผลิตสูงคิดเป็น ๗๕% ของผลผลิตเห็ดทั้งหมดในประเทศ แต่มีอายุการเก็บรักษาสั้น โดยเฉพาะเห็ดฟางดอกบาน ที่คนไทยไม่นิยมบริโภค และเน่าเสียได้ง่าย ทำให้เกิดความสูญเสียของผลผลิตทางการเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร (กวป.) กรมวิชาการเกษตร จึงมีแนวคิดเพิ่มมูลค่าเห็ดฟางเหล่านี้ด้วยการนำมาสกัดเอาไฮโดรไลเซท เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางเนื่องจากผิวหนังของมนุษย์มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบ ในระหว่างวันจะมีการสูญเสียโปรตีนจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ รังสียูวี และมลภาวะ การจะซ่อมแซมผิวเนื่องจากการสูญเสียโปรตีน สามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของโปรตีนไฮโดรไลเซท “เห็ดฟางดอกบานที่ใกล้หมดอายุการวางจำหน่าย และราคาตกต่ำ เราจึงมีแนวคิดที่จะนำเห็ดฟางเหล่านี้มาสกัดเอาโปรตีนไฮโดรไลเซท โดยศึกษาการใช้เอนไซม์อัลคาเลสในการย่อยเห็ดฟาง ๒, ๓, ๔ และ ๕ ชั่วโมง เพื่อคัดเลือกโปรตีนไฮโดรไลเซทที่มีคุณภาพเหมาะสมที่สุดในการนำไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์โลชันบำรุงผิว”นางสาวสุรีย์รัตน์ รักเหลือ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กลุ่มวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลิตผลเกษตร กวป. เผยถึงผลการทดลอง พบว่าโปรตีนไฮโดรไลเซทที่ได้จากการย่อยเห็ดฟางดอกบานที่ระยะเวลา ๔ ชั่วโมง มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดและสูงกว่าวิตามินซีถึง ๓๐.๓๖% รวมทั้งยังพบว่าโปรตีนไฮโดรไลเซทที่ได้จากการย่อยเห็ดฟางดอกตูม ๓ ชั่วโมง มีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นสาเหตุของความหมองคล้ำสูงที่สุดจึงเลือกนำโปรตีนไฮโดรไลเซทจากการย่อยเห็ดฟางดอกบานที่ ๔ ชั่วโมง และดอกตูมที่ ๓ ชั่วโมง มาผสมใช้ร่วมกันในอัตราส่วน ๑:๑ เพื่อให้ได้คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสมาประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมในโลชันบำรุงผิวที่ความเข้มข้น ๐.๕% เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเอาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผสมสมุนไพร และได้การยอมรับจากผู้ทดสอบด้านสี ความหนืด การซึมสู่ผิว ความเหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหลังทา ความชุ่มชื้นหลังทา “โปรตีนโฮโดรไลเซทที่ได้จากเห็ดฟาง จะมีคุณสมบัติในการทดแทนโปรตีนที่สูญเสียไประหว่างวัน โดยจะจับตัวกับน้ำและผิวจึงยึดเกาะกับน้ำและผิวหน้าได้โดยตรง และสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น เรียบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่น ยกกระชับผิว โปรตีนไฮโดรไลเซทจากเห็ดฟางจึงมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณครบถ้วน และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรในการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์”สำหรับผลิตภัณฑ์โลชันบำรุงผิวผสมโปรตีนไฮโดรไลเซทจากเห็ดฟางมีปริมาณ ๒๕๐ กรัม มีต้นทุนค่าวัตถุดิบ ๕๓.๖๙ บาท สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร โทร. ๐–๒๙๔๐-๕๔๖๘-๙.ชาติชาย ศิริพัฒน์คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม
Related posts