ดราม่ากีฬาสี เมื่อครูให้เด็ก ๔ ขวบ แข่งแต่งกาย โดยจับ “แก้ผ้า” ทั้งชาย-หญิง ขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสายตาของเพื่อนในโรงเรียน ทำให้พ่อของเด็กรายหนึ่งแสดงความไม่พอใจในกลุ่มไลน์ผู้ปกครอง สำหรับผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กมองว่า เด็กมีพฤติกรรมเขินอายตั้งแต่ชั้นอนุบาล ซึ่งส่งผลร้ายทางจิตใจไปจนโตได้เมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค. ๖๗ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล ศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โพสต์ข้อความระบุ การแข่งขันกีฬาสี ในเพจ “จิตวิทยาเด็กและครอบครัว ปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูก” โดยแสดงถึงความไม่พอใจกับกรณีที่นำลูกขึ้นไปบนเวทีเพื่อแข่งขันแต่งกาย ซึ่งมีการจับเด็ก “แก้ผ้า” พ่อของเด็กหญิงวัย ๔ ขวบไม่ทราบมาก่อน และภายหลังโพสต์ลงในเพจชื่อดัง ทำให้ทางหน่วยงานที่จัดกิจกรรมออกมาขอโทษ และยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ รวมถึงลบภาพของเด็กที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้าออกจากเพจของ อบต. ครูต้อ-ศีลดา รังสิกรรพุม ผู้จัดการ มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวกับ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การแข่งขันแต่งตัว โดยให้เด็กแก้ผ้าบนเวที เป็นการจัดกิจกรรมของครูที่ไม่เหมาะสม เพราะการให้เด็กผู้ชายถอดเสื้อผ้าและเด็กผู้หญิงเหลือแต่กางเกงใน เป็นการละเมิดสิทธิเด็กกรณีนี้เด็กมีความรู้สึกอาย เพราะธรรมชาติครูจะเริ่มสอนเด็กตั้งแต่ ๓-๔ ขวบ ในการปกป้องร่างกายตัวเอง เช่น ไม่ถอดเสื้อผ้าให้ใครเห็น โดยเฉพาะคนแปลกหน้า กระทั่งการอาบน้ำของเด็ก ต้องใช้ความระมัดระวัง แต่กรณีแข่งขันที่เกิดขึ้น กลับเป็นการแก้ผ้าเด็กในที่สาธารณะ ถือเป็นการที่ไม่ปกป้องคุ้มครองเด็ก “ในความรู้สึกของเด็ก เชื่อว่าจะอายแน่ๆ เพราะปกติเด็กคุ้นกับการใส่เสื้อผ้า แต่ด้วยความเป็นเด็กอาจยังบอกครูไม่ได้ว่าไม่อยากทำ แต่ต้องฝืนทำตามครูสั่ง ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ครูต้องระวังเรื่องสิทธิเด็ก เพราะครูอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลองคิดดูว่าแค่ครูเรียกเด็กว่า อ้วน หรือ ดำ เด็กยังอาย แต่นี่ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่น ย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมเด็ก ในการไม่กล้าแสดงออก ไม่ชอบตัวเอง ยิ่งถ้ามีคนหัวเราะ เด็กก็ยิ่งอับอาย”กิจกรรมนี้ ส่งผลให้เด็กถูกบูลลี่ เพราะมีการถ่ายรูปเด็กขณะทำกิจกรรมบนเวทีโพสต์ลงบนเพจของหน่วยงานที่จัดกิจกรรม ซึ่งเด็กเมื่อโตขึ้น มีบางกรณีที่ถูกขุดคุ้ยภาพเก่าในโลกออนไลน์มาล้อเลียน ทำให้เป็นบาดแผลในจิตใจซ้ำเข้าไปอีก ที่ผ่านมาทางมูลนิธิจัดกิจกรรมครูในใจเด็ก พบว่าครูจำนวนมากทั่วประเทศ ไม่มีความรู้เรื่องสิทธิเด็ก พอครูหลายคนรู้ก็รู้สึกเสียใจว่าตัวเองเคยละเมิดสิทธิเด็กโดยไม่ได้ตั้งใจ “เด็กผู้หญิงมีความขี้อาย เพราะเด็กที่ดูแลส่วนใหญ่ แม้เป็นช่วงก่อนวัยเรียน แต่เขาจะนุ่งผ้าเช็ดตัวเวลาไปอาบน้ำ เด็กเมื่ออายุ ๒ ขวบ จะรู้สึกอาย หากมีใครมาจ้องเขาเวลาอาบน้ำ ดังนั้นครู ต้องมีการแยกเด็กผู้ชายและหญิงเวลาอาบน้ำ ซึ่งเด็กที่เป็นดราม่าอายุ ๔ ขวบ ย่อมมีความรู้สึกอาย”เด็กหญิงบางคนเมื่อถูกเพื่อนแกล้งเปิดกระโปรง จะมีความหวาดกลัวตามมา บางรายถึงขนาดฝังใจและจำเหตุการณ์ที่สร้างความอับอายไปจนถึงตอนโต ซึ่งเด็กบางคนอาจแสดงพฤติกรรมลบใส่ผู้อื่น เพราะความรู้สึกของเด็กมีความละเอียดอ่อน ยิ่งไปทำให้เด็กถูกหัวเราะเวลาถูกจับแก้ผ้ายิ่งเป็นภาพลบในใจเด็ก อยากฝากถึงครูและผู้ที่ดูแลเด็ก ในการเลือกใช้กิจกรรมเพื่อกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ให้มีความเหมาะสม ไม่ก้าวข้ามไปสู่การละเมิดสิทธิเด็ก และต้องเหมาะกับวัยของเด็ก.
ดราม่ากีฬาสี ครูจับเด็กแข่งขันแก้ผ้า ผลร้ายบูลลี่ฝังลึกถึงโต
Related posts