ระทึกรถพ่วง ๑๘ ล้อบรรทุกหินเต็มคันเสียหลักชนเสาไฟฟ้าแรงสูงพุ่งเสียบโกดังเก็บปุ๋ยเคมีและไวน์ริมถนน เกิดไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสยองคารถก่อนลุกลามเผาอาคารวอด เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า ๑๐ คันเข้าฉีดน้ำ แต่การดับไฟค่อนข้างลำบาก ถังแก๊สในรถเกิดระเบิด รถติดสะสมยาว ใช้เวลากว่า ๒.๓๐ ชม. ก่อนควบคุมเพลิงไว้ได้พร้อมกับนำศพโชเฟอร์ออกมาจากซากรถเหตุระทึกรถพ่วง ๑๘ ล้อซิ่งอัดเสาไฟฟ้าพุ่งชนโกดังเก็บปุ๋ยและไวน์ไฟลุกท่วม โชเฟอร์ดับสยองคาซากรถ เกิดขึ้นเมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๑๑ มี.ค. ร.ต.อ.ไตรภพ มงคลสุจริตกุล รอง สว. (สอบสวน) สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุรถพ่วง ๑๘ ล้อ บรรทุกสินค้าพุ่งชนเสาไฟฟ้าและโกดังเก็บสินค้าไฟลุกไหม้ริมถนนมาลัยแมน แยกกิโล ๒๙ ฝั่งขาเข้ากำแพงแสน หมู่ ๘ ต.กำแพงแสน ไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมจุดกำแพงแสน และรถพยาบาลโรงพยาบาลกำแพงแสนที่เกิดเหตุพบรถพ่วง ๑๘ ล้อเสียหลักชนเสาไฟฟ้าแรงสูงจนสายไฟขาดพุ่งเสียบเข้าไปในโกดังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมถนนพังเสียหายไฟลุกไหม้รถและโกดังอย่างรุนแรง บริเวณหน้ารถพบคนขับเสียชีวิตติดคาซาก เจ้าหน้าที่ประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลกำแพงแสน อบต.กำแพงแสน อบต.วังน้ำเขียว เทศบาลตำบลบางหลวง อบต.สระสี่มุม และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า ๑๐ คัน แต่การอำนวยการดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากในโกดังเก็บปุ๋ยเคมีและไวน์จำนวนมาก อีกทั้งมีเสียงถังแก๊สในรถพ่วงระเบิดขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำแพงแสนตัดกระแสไฟเพื่อป้องกันไฟรั่วสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถพ่วงคันดังกล่าว มีนายนราชิต โพธิ์ขำ อายุ ๓๑ ปี เป็นคนขับบรรทุกหินมาจาก จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปทาง อ.กำแพงแสน ถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟแรงสูงและโกดังเก็บปุ๋ยและไวน์อย่างจังไฟไหม้ลุกลามนายนราชิต โชเฟอร์ เสียชีวิตคาที่ต่อมา พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม พร้อมด้วยนายนรวิร์ ขันธหิรัญ นายอำเภอกำแพงแสน นายอดิศร ล้อถิรธร ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอกำแพงแสน นายธงชัย โชคดำรงสุข นายก อบต.กำแพงแสน นางสมพิศ ยืนนาน นายก เทศมนตรีเทศบาลตำบลกำแพงแสน และ ร.ต.ท.บัญชา แก่นสวาท รอง สารวัตรปราบปรามตำรวจทางหลวงกำแพงแสน มาร่วมกันอำนวยการดับเพลิงและระบายการจราจรที่ติดสะสมหลายกิโลเมตร กระทั่งเวลา ๒๐.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้และนำร่างนายนราชิต คนขับออกจากซากรถ แต่ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงถังแก๊สในรถบรรทุกที่เหลือ เพื่อป้องกันแก๊สระเบิด โดยใช้เวลาดับไฟกว่า ๒.๓๐ ชม.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
