Thursday, 14 November 2024

กองบิน ๔๑ จ่อรับเขี้ยวเล็บใหม่ เครื่องบิน AT-๖ เข้าประจำการ มิถุนายนนี้

12 Mar 2024
111

“ผู้การหนึ่ง” เผย “กองทัพอากาศ” พร้อมรับเครื่องบิน AT-๖TH เข้าประจำการ “กองบิน ๔๑” จำนวน ๒ ลำแรก ในเดือน มิถุนายนนี้ เพื่อเสริมศักยภาพ กำลังทางอากาศ ดูแลอธิปไตยน่านฟ้าไทย ย้ำเป็นเครื่องแบบโจมตีเบา เหมาะในภูมิประเทศภาคเหนือ ที่มีแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ในการลาดตระเวน และสนับสนุนภาคพื้นดินของทหารราบเมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค. ๖๗ ที่ กองบิน ๔๑ จ.เชียงใหม่ น.อ.ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน ๔๑ (ผบ.บน.๔๑) แถลงถึงความพร้อมของการนำเครื่องบิน AT-๖TH เข้าประจำการฝูงบิน ๔๑๑ ว่า กองทัพอากาศได้สั่งซื้อเครื่องบินดังกล่าว จำนวน ๘ ลำ ตามงบประมาณผูกพัน ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๘ รวมมูลค่ากว่า ๔,๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งเครื่องบินดังกล่าว เป็นเครื่องบินรบ ใบพัดแบบขับไล่ ที่มีความเร็ว ๒๕๐-๓๐๐ นอต หรือความเร็วไม่สูงมากโดยมีแผนเข้าประจำการที่กองบิน ๔๑ จ.เชียงใหม่ จำนวน ๒ ลำ ในช่วงมิถุนายนนี้ และจะเข้าประจำการครบทุกลำ ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกองบิน ๔๑ ได้ส่งนักบินชุดแรกไปฝึกซ้อมที่สหรัฐอเมริกา ก่อนรับเครื่องบินดังกล่าวเข้าประจำการฝูงบิน ตามลำดับ “เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโจมตีเบา เหมาะสมกับภูมิประเทศภาคเหนือ ที่มีแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้ลาดตระเวนและสนับสนุนบนภาคพื้นดินของทหารราบ เนื่องจากมีความเร็วไม่สูงมากนัก สามารถบินได้นาน ๔ ชั่วโมงครึ่ง โดยมีศูนย์บำรุงอากาศยานที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ดูแลและบำรุงรักษา ภายใต้ความร่วมมือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะระบบซอฟต์แวร์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบินภายในประเทศด้วย” น.อ.ปรธรกล่าว ผบ.บน.๔๑ กล่าวด้วยว่า เครื่องบินรบดังกล่าวจะเข้ามาบรรจุประจำการเพื่อทดแทนฝูงบิน L๓๙ ที่ปลดประจำการแล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถป้องกันประเทศ และรักษาอธิปไตยของชาติ ซึ่งเครื่องบินดังกล่าว มีอายุการใช้งานกว่า ๓๐ ปี มีค่าบำรุงรักษาน้อยสามารถประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น ส่วนข้อสงสัยว่าเป็นเครื่องบินรบใบพัดสามารถต่อกรกับเครื่องบินไอพ่นเพื่อนบ้านได้หรือไม่ โดยเฉพาะ MIG ๒๙ ที่ผลิตในรัสเซีย หากต้องเผชิญหน้าสงครามกลางเวหา ก็ขอยอมว่า กองทัพอากาศ มีเครื่องบินรบไอพ่นแบบขับไล่ อาทิ F-๑๖ คอยคุมเครื่องบินดังกล่าวอยู่แล้ว พร้อมปกป้องคุ้มครองอธิปไตย ไม่ให้ศัตรูรุกราน หรือฝ่ายตรงข้ามล่วงล้ำเข้ามาอีก จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะต้องปฏิบัติตามสถานการณ์ และกฎการปะทะตามสากลอยู่แล้ว “ดังนั้นอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นขีดความสามารถกองทัพอากาศ และเหล่าทัพ เพื่อสร้างความมั่นใจและอุ่นใจในการปกป้อง รักษาความมั่นคงและความสงบของประเทศด้วย” น.อ.ปรธรกล่าว.