ภรรยาม่ายของ นายอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านชาวรัสเซียผู้ล่วงลับ กล่าวปราศรัยต่อรัฐสภายุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ เธอได้พูดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจว่า “หากคุณต้องการเอาชนะปูตินจริงๆ คุณต้องเป็นผู้ริเริ่ม” ยูเลีย นาวาลนายา กล่าวต่อว่า “และคุณต้องยุติความเพิกเฉย”แพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ สำหรับยูเครนมูลค่า ๖๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ (ราว ๒.๑๒๗ ล้านบาท) ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สั่งระงับ ขณะที่ สหภาพยุโรป ยังคงถกเถียงกันเรื่องแผนการเพิ่มเงินสนับสนุนจำนวน ๕,๐๐๐ ล้านยูโร ให้กับ European Peace Facility (EPF) เพื่อซื้ออาวุธเพิ่มเติมให้กับยูเครนได้มีข้อเสนอเพื่อแก้ไขการขาดแคลนยุทโธปกรณ์ของยูเครน ทั้งการมอบอาวุธที่หมดอายุแล้วในทางเทคนิคให้ยูเครน รวมถึงขีปนาวุธทอรัสของเยอรมนี ที่มีพิสัยการยิง ๕๐๐ กม. แต่เยอรมนียังคงต่อต้านเรื่องนี้เมื่อภรรยาม่ายของ นายอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านชาวรัสเซียผู้ล่วงลับ กล่าวปราศรัยต่อรัฐสภายุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ เธอได้พูดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจว่า “หากคุณต้องการเอาชนะปูตินจริงๆ คุณต้องเป็นผู้ริเริ่ม” ยูเลีย นาวาลนายา กล่าวต่อว่า “และคุณต้องยุติความเพิกเฉย”ความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และความน่าสนใจอาจจะไม่ใช่ลักษณะสำคัญของนักการเมืองยุโรปบางคนเสมอไป แต่สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องคิดอย่างแตกต่าง ไม่ใช่แค่เพียงว่าจะสนับสนุนยูเครนได้ดีเพียงใด แต่ยังต้องเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียด้วยความเป็นไปได้ที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย เป็นสิ่งที่ตระหนักกันดีในยุโรป ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนในระยะยาวของอเมริกา แพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ สำหรับยูเครนมูลค่า ๖๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ (ราว ๒.๑๒๗ ล้านบาท) ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สั่งระงับ ขณะที่ในสนามรบ กองกำลังรัสเซียเริ่มที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธเหลือเพียงน้อยนิด แต่อย่างไรก็ตาม สองปีนับจากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซีย หลายประเทศในยุโรปยังคงให้การสนับสนุนทางการเมืองต่อยูเครนในเดือนมกราคม สหภาพยุโรป ได้เห็นชอบเมื่อเดือนมกราคมที่จะให้เงินอุดหนุน และเงินกู้มูลค่า ๕๐,๐๐๐ ล้านยูโร (ราว ๑.๙๒ ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนรัฐบาล และบริการสาธารณะของยูเครน แต่สหภาพยุโรปกลับล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายในการส่งกระสุนหนึ่งล้านนัดไปยังยูเครนภายในต้นเดือนนี้นักการทูตสหภาพยุโรปยังคงถกเถียงกันเรื่องแผนการเพิ่มเงินสนับสนุนก้อนใหม่จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านยูโร ให้กับ European Peace Facility (EPF) ซึ่งเป็นโครงการใช้จ่ายนอกงบประมาณในด้านการสนับสนุนความปลอดภัยทั่วโลกของอียู เพื่อซื้ออาวุธเพิ่มเติมให้กับยูเครน และนาโตกล่าวว่า ในปีนี้ชาติสมาชิกยุโรป ๑๒ ประเทศ อาจยังไม่บรรลุเป้าหมายในการใช้จ่าย ๒% ในด้านกลาโหมอาวุธเพิ่มเติมด้วยความสมดุลทางการทูต และการทหารที่เปลี่ยนไป ยุโรปจึงจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนยูเครนอย่างสร้างสรรค์ และขัดขวางการรุกรานของรัสเซียในอนาคต ขณะที่ยุโรปมีคลังกระสุน และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถมอบให้กับยูเครนได้เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวต่อวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แทนที่จะโละทิ้งระบบอาวุธซึ่งหมดอายุการใช้งานไปแล้วในทางเทคนิคที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ชาติพันธมิตรควรมอบระบบอาวุธเหล่านี้ให้กับยูเครนนอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออกที่มีกระสุนเก่าที่ผลิตในสมัยสหภาพโซเวียต ซึ่งเหมาะสมกับอาวุธของยูเครน ควรมอบอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้นให้ยูเครนทันที แต่ตลอดช่วงสงครามนี้ผู้นำยุโรปยังคงต้องตัดสินใจไม่ได้ว่าควรมอบอาวุธให้กับยูเครนหรือไม่ โดยประเด็นขัดแย้งล่าสุดคือเรื่องขีปนาวุธทอรัสของเยอรมนี ซึ่งมีพิสัยการยิงประมาณ ๕๐๐ กม. ซึ่งมากกว่า “สตอร์ม ชาโดว์ส” ที่สหราชอาณาจักรจัดหาให้ยูเครนใช้อยู่ พันธมิตรหลายฝ่ายเชื่อว่าทอรัสจะทำให้ยูเครนมีโอกาสโจมตีแนวรบรัสเซียได้ลึกขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี เกรงว่ามันอาจถูกนำมาใช้โจมตีเมืองต่างๆ ของรัสเซียได้ และกำลังต่อต้านแนวคิดนี้ โดยกลัวว่าอาจทำให้เหตุการณ์บานปลายนอกจากนี้ยังมีแผนการจัดหากระสุนปืนใหญ่ที่ยูเครนต้องการอย่างมาก รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเห็นชอบข้อตกลงมูลค่า ๑.๕ พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ กับกลุ่มประเทศนาโต และสหภาพยุโรป ๑๘ ประเทศ เพื่อซื้อกระสุน ๘๐๐,๐๐๐ นัด ทั้งขนาดลำกล้อง ๑๕๕ มม. และ ๑๒๒ มม. จากนอกสหภาพยุโรป ซึ่งนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับสมาชิกสหภาพยุโรปที่มีแนวคิดกีดกันทางการค้ามากขึ้น โดยเฉพาะฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่สามารถสนองความต้องการของยูเครนที่ระบุว่าต้องการกระสุนจำนวน ๒.๕ ล้านนัดในปีนี้การใช้จ่ายด้านการป้องกันมากขึ้นผู้กำหนดนโยบายยังกำลังครุ่นคิดหาวิธีใหม่ๆ ในการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการกลาโหม ซึ่งรวมถึงข้อเสนอสำหรับธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป เพื่อยุติการห้ามให้ทุนสนับสนุนโครงการด้านกลาโหมอย่างไรก็ตาม ได้มีข้อเสนอสำหรับประเทศในยุโรปที่จะเพิ่มร่วมมือมากขึ้นในการจัดหาอาวุธ โดยการซื้ออาวุธร่วมกันจากผู้ผลิตเพื่อลดต้นทุน รัฐบาลต่างๆ ยังคงรอลงนามในสัญญาระยะยาวแก่บริษัทด้านกลาโหมเพื่อกระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมสำหรับยูเครนเอสโตเนีย ต้องการให้ประเทศในนาโตทุกประเทศให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนอย่างน้อย ๐.๒๕% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งหมายถึงเงินประมาณ ๑๒๐ พันล้านยูโรต่อปี แม้ว่าพันธมิตรบางรายจะเห็นอกเห็นใจ แต่แนวคิดนี้ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางผู้กำหนดนโยบายของยุโรปบางรายกำลังร่างแผนสำหรับรูปแบบการจัดการ “ยืม-เช่า” เพื่อให้ยูเครนยืมอาวุธ เช่นเดียวกับที่ชาติพันธมิตรทำต่ออดีตสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แนวคิดเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นทรัพย์สินของรัสเซียมีความคิดมากมายเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกแช่แข็งมูลค่าประมาณ ๓ แสนล้านยูโรที่ถืออยู่ในสถาบันการเงินตะวันตก ขณะที่การให้เงินแก่ยูเครนโดยตรงอาจเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และทำให้ทรัพย์สินของยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงในเขตอำนาจศาลอื่นแต่สหภาพยุโรปกำลังแสวงหาแผนการที่จะใช้ผลกำไรดังกล่าวเพื่อสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน และสหราชอาณาจักรกำลังมองหาข้อเสนอแยกต่างหากเพื่อใช้สินทรัพย์ดังกล่าวเป็นหลักประกันสำหรับการฟื้นฟูแบบเร่งด่วนสำหรับยูเครน เป้าหมายไม่เพียงแต่ระดมเงินสดให้กับยูเครนเท่านั้น แต่ยังยกระดับการโจมตีเชิงกลยุทธ์ต่อรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายของยุโรปบางคนจึงพยายามคิดนอกกรอบ แต่ความตึงเครียดยังคงดำเนินอยู่ ประเทศในยุโรปตะวันออกหลายประเทศกำลังใช้ทรัพยากรทางการทหารมากกว่าประเทศในยุโรปตะวันตก ขณะที่เจ้าหน้าที่เยอรมันบางคนที่ “พูดจาไม่ยั้งคิด” ได้ทำให้พันธมิตรไม่พอใจด้วยการเปิดเผยความลับทางการทหาร ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ก็แสดงอาการไม่พอใจด้วยการแนะนำให้ชาติตะวันตกควรพิจารณาสวมรองเท้าบูตทหารในยูเครน ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนคิดว่าเป็นการทะเลาะกันโดยไม่จำเป็นบางทีความขัดแย้งที่ใหญ่ที่สุดของหลายชาติในยุโรปอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับความท้าทายระยะยาวจากรัสเซีย ผลสำรวจล่าสุดจากสภายุโรปว่าด้วยความสัมพันธ์ต่างประเทศชี้ว่า ในขณะที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่สนับสนุนยูเครน มีเพียง ๑ ใน ๑๐ เท่านั้นที่คิดว่ายูเครนจะประสบกับชัยชนะนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่านี่เป็นเพราะรัฐบาลยุโรปยังไม่เข้าใจความท้าทายในวงกว้างจากรัสเซียเคียร์ ไกล์ส ที่ปรึกษาอาวุโสของ Chatham House ซึ่งเป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญของอังกฤษ กล่าวว่า “ไม่มีหลักฐานว่าระดับการเมืองสูงสุดเข้าใจระดับของภัยคุกคาม หรือพยายามอธิบายเรื่องนี้ต่อสาธารณะ” เขากล่าวต่อว่า “หากการดำเนินการแก้ไขสายเกินไปจนยากที่จะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ นั่นอาจเป็นเพราะการสมรู้ร่วมคิดในการมีส่วนร่วมในการกระทำผิดทางอาญา”ยุโรปจะก้าวเข้าสู่ความท้าทายนี้หรือไม่? อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ฝรั่งเศส ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้วว่าไม่ให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนเพียงพอ แต่ประธานาธิบดีมาครงซึ่งเคยกล่าวว่า รัสเซียไม่ควรถูกทำให้อับอาย ยังคงแสดงความดื้อรั้นไกล์ส กล่าวว่า “เรากำลังเข้าใกล้ช่วงเวลาที่ยุโรปไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนขี้ขลาด”.ที่มา BBCติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
ยุโรปได้ช่วยเหลือยูเครนมากพอหรือยัง?
Related posts