บ่นหนาวมาพักใหญ่ ตอนนี้ชักร้อนแล้ว แนวโน้ม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมโปรดของท่านผู้นำประเทศไทย สโมสรในดวงใจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง กำลังหวิวกับสถานการณ์พลิกไปพลิกมาล่าสุด หล่นมาอยู่อันดับสอง โดนปืนใหญ่ อาร์เซนอล แซงยึดจ่าฝูง“หงส์แดง” แรงสะดุด แต่ที่ “แดง” ไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ นาทีนี้ทะลุอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว แนวโน้มจังหวัดเชียงใหม่ ไทยแลนด์ ขึ้นแท่น “จ่าฝูง”ครองแชมป์อันดับหนึ่ง เมืองใหญ่ที่มลพิษมากสุดในเวิลด์แรงกิ้ง เศรษฐา ทวีสินคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ปาดหน้าแซงเมืองใหญ่ประเทศอินเดีย ด้วยค่า AQI อยู่ที่ ๑๘๘ ในระดับ “สีแดง” ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนในพื้นที่ จากสภาวะฝุ่นควันพิษ PM๒.๕ ครอบเมือง“นครพิงค์” เชียงใหม่อยู่ในม่านหมอกมลพิษทางอากาศในจังหวะที่ “มลภาวะทางการเมือง” กำลังโชยกรุ่น ตามโปรแกรม “พ่อเลี้ยงแม้วปิ๊กบ้าน” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โฉบกลับไปไหว้กระดูกบรรพบุรุษตระกูลชินวัตรที่บ้านเกิด อำเภอสันกำแพง แสดงตัวแสดงตนกับชาวเชียงใหม่ในรอบ ๑๗ ปีตามฤกษ์ที่แจ้งกรมคุมประพฤติล่วงหน้า ระหว่างวันที่ ๑๔–๑๖ มีนาคมนี้ “นายใหญ่” ขอออกนอกถ้ำ “จันทร์ส่องหล้า” ขนครอบครัว ลูกหลาน ไปปักหลักเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหายที่แผ่นดินบ้านเกิดเปิดฉาก ขยับแข้ง ขยับขา ประเดิมการเคลื่อนไหวและที่แสร้งทำเป็น “เคอะเขิน” ไม่ยอมรับตรงๆแต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า บังเอิญจงใจในจังหวะเหมาะเจาะเหมาะเหม็งกับที่นายเศรษฐา ก็มีโปรแกรมเดินสายประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรภาคเหนือ ระหว่างวันที่ ๑๕–๑๗ มีนาคม คิวงานป้วนเปี้ยนอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยาพล็อตละครน้ำเน่า นางเอกสะดุดล้มจมูกไปชนกับพระเอกพอดิบพอดีชาวบ้านจับทางถูก คนดูเดาทางได้ อารมณ์แบบที่นายเศรษฐาแค่บอกว่า ยังไม่ได้นัด แต่ยอมรับมีโอกาสเจอ “นายใหญ่” ที่เชียงใหม่นายกฯในตำแหน่ง ไม่บอกปัดคิวสัญจรเจอนายกฯในตำนานเพราะมันคือ จังหวะกระตุกสัญญาณทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่โยงกับยุทธศาสตร์เดิมพัน สถานการณ์บังคับของพรรคเพื่อไทย เกมบีบทีม “นายใหญ่” ต้องเร่งกอบกู้ “เมืองหลวงตระกูลชิน”เชียงใหม่ ฐานใหญ่ที่ยี่ห้อ “ทักษิณ” ผูกปีกินมานาน กาลเวลาผันแปรสถานการณ์แปรผัน แนวรบภาคเหนือเปลี่ยนแปลง จากศึกเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ค่ายเพื่อไทยพ่ายยับเยิน ถูกกองทัพส้ม ทีมก้าวไกลตีแตกกระเจิง โดยเฉพาะพื้นที่รอบใน เขตเศรษฐกิจ โซนมหาวิทยาลัยพลังปัญญาชน คะแนนชนชั้นกลางไหลไปอยู่กับทีมส้ม สวนทางกับความเข้มของสีแดง กองหนุนพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เจือจางลงตามสังขารที่โรยรายี่ห้อ “ทักษิณ” เสื่อมมนต์ขลังตามกาลเวลากระแสความนิยมพรรคเพื่อไทยอ่อนล้า นั่นไม่เท่ากับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง จากการที่ทีม “นายใหญ่” ตัดสินใจหักดิบ ยอมหักหลังฝ่ายประชาธิปไตย จูบปากกับขั้วอำนาจทหารเฒ่า ตั้งรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร สวมบทหัวขบวนฝ่ายอนุรักษ์นิยมแบบเต็มคราบจุดขายภาพเสรีประชาธิปไตยไม่เหลือ หัวเมืองเหนือถูกกองทัพส้มเจาะพรุน ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์“ทักษิณ” จ่อเสียเมืองให้พรรคก้าวไกลแบบถาวร และก่อนอื่นใด ไฟต์เดิมพัน สัญญาณยี่ห้อทักษิณฟื้นหรือไม่ฟื้น อยู่ที่ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)กระแสบ้านใหญ่ต่อแถวสวมเสื้อวินสีส้ม โฟกัสจังหวัดเชียงใหม่ตามกระแส “น้องกุ้ง” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เบอร์ใหญ่เพื่อไทย ที่โดนฝ่ายความมั่นคงยุค คสช.ลงโทษฐานแจกใบปลิวประจานเผด็จการทหาร ผิดหวังอย่างแรงที่อดีตต้นสังกัดไม่เหลืออุดมการณ์ตัดสินใจสวมเสื้อพรรคก้าวไกล ปักหลักยึดนครพิงค์ให้กองทัพส้มโจทย์เร่งด่วน การบ้านยากๆ ภาคบังคับ “นายใหญ่” ต้องกอบกู้ฐานที่มั่น สัญลักษณ์จังหวัดเชียงใหม่คือ “เมืองหลวงตระกูลชิน” ยื้อไพ่ใบท้ายๆที่ถือไว้ในมือประคองดุลต่อรอง “ดีลอำนาจ” กับฝ่ายคุมเกมประเทศไทย.ทีมข่าวการเมือง รายงาน
Related posts