Thursday, 19 December 2024

"ชัยธวัช" ย้ำ สู้คดียุบพรรคก้าวไกลเต็มที่ ดักทางพรรคอื่น จ้องดูด สส.

“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำ สู้คดียุบพรรคก้าวไกล เต็มที่ ขอศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวน หวั่น ถลำลึกวังวนเดิม โยงเซาะกร่อนสถาบัน ยันต้องระวัง ดักทางพรรคการเมืองอื่น จ้องดูด สส.ชี้ ไม่ถูกต้องเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.วันที่ ๑๓ มีนาคม๒๕๖๗ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ส่งสำนวนคดีล้มล้างการปกครองให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่า เราก็เตรียมต่อสู้คดี ตามกฎหมายเต็มที่ และทำงานทุกวันให้ดีที่สุด แม้ต้องยอมรับว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะทำให้เราต่อสู้ได้ยากมากกว่าในคดีอื่นๆ แต่ขอต่อสู้เต็มที่ ว่ามันไม่มีเหตุผลเพียงพออย่างไร ที่จะต้องมีการวินิจฉัยถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งโดยปกติศาลต้องไต่สวนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่า สามารถนำคำวินิจฉัยจากกรณีหาเสียงมาตัดสินได้เลย นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุด ศาลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้อง อย่างพรรคก้าวไกล ได้แก้ข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ได้เสนอข้อเท็จจริง พยานผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่เมื่อถามอีกว่า หากไม่เปิดให้มีการไต่สวน นายชัยธวัช กล่าวว่า อยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่า เมื่อไหร่ที่ศาลเห็นว่า มีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว ศาลมีสิทธิ์ที่จะยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกล คงต้องต่อสู้ให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงให้มากที่สุด และตนยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ในพรรค คิดว่าบทเรียนที่สำคัญน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่า ว่า การยุบพรรคการเมือง ไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด ซ้ำร้ายอาจจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสวนทางกับการคาดหวังของพี่น้องประชาชน หลังจากที่เรามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหารแล้ว“ซ้ำร้าย การยุบพรรคการเมือง ด้วยอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเซาะบ่อนทำลายสถาบัน ในทางด้านกลับ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน อาจจะเป็นเรื่องที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันในด้านกลับก็ได้ เพราะยิ่งดึงประเด็นเรื่องสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง” นายชัยธวัช กล่าว เมื่อถามถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคสำรอง นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ก่อน ส่วนที่วิเคราะห์กันว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่กลับคำวินิจฉัยตัวเองนั้น แม้ว่าจะมีโอกาสน้อย แต่ก็ต้องสู้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการกลับคำวินิจฉัย คำวินิจฉัยครั้งที่แล้ว เป็นกรณีที่วินิจฉัยสั่งการให้พรรคก้าวไกล ยุติการกระทำที่ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง แต่การวินิจฉัยให้ยุบพรรคก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนข่าวการดูด สส.ในพรรค นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเป็นห่วงสังคมไทยมากกว่า ตนคิดว่า เราลองจินตนาการถึงสังคมไทยหลังจากนี้ เรากำลังเข้าสู่วังวนแบบเดิมๆ ที่หาทางออกไม่เจอ และอาจจะยิ่งถลำลึกต่อไปมากขึ้นก็ได้ การยุบพรรคการเมืองจากเหตุที่กล่าวหาว่า ล้มล้างการปกครองและเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน ไม่มีผลดีต่อสถาบันแต่ประการใด ตนยืนยันในเรื่องนี้เมื่อถามถึงกรณีเริ่มมี สส. ภายในพรรคก้าวไกลรวมถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค โพสต์เชิงตัดพ้อ ทำใจกับเรื่องนี้ไว้แล้วใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องยุบพรรคไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำใจ แต่ต้องเป็นเรื่องที่ยืนยันว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางการเมือง เช่นเดียวกับที่มีกระแสข่าว สส.พรรคก้าวไกล เริ่มไปคุยกับพรรครัฐบาล จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรค เรามั่นใจว่า สส.ที่ดี คือ ผู้แทนราษฎรที่ดี เรื่องนี้ไม่สามารถมีใครไปบังคับใจกันได้ พรรคมีหน้าที่ต้องเตรียมทุกทางออกให้กับสมาชิก เช่นเดียวกับกระแสข่าว สส.พรรคไปพบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตนว่า ต้องตรวจสอบรัฐบาล ไม่ว่าพรรคไหน”ถ้าเรายังยอมรับวิธีการทำงานการเมืองแบบนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่เป็นปัญหาของพรรคก้าวไกล เป็นปัญหาของวิธีการการเมืองแบบเดิมๆ ซึ่งควรจะหมดไปได้แล้ว รวมถึงการคิดว่าจะเอาชนะกันทางการเมือง ด้วยการยุบพรรคการเมือง ผมเป็นบทเรียนสังคมแล้วว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นมีแต่แย่ลง” นายชัยธวัช กล่าว.