จบด้วยดี สาวสองนางรำอัปสรา ทวงคืนศักดิ์ศรีหลังโดนพระครูที่โพสต์ “ถ้านางฟ้าสภาพนี้ ฉันขอตกนรกตลอดกาล” ยอมรับคำขอโทษต่อหน้าสื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ จากกรณีพระครูรูปหนึ่งโพสต์ภาพนางรำ พร้อมข้อความว่า “ถ้านางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ ฉันขอตกนรกตลอดกาล” จนเกิดดราม่าระดับสาวประเภทสองนัดรวมตัวกัน เตรียมไปที่วัดดังกล่าว ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมาพบว่า โพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไปแล้ว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : นางรำเตรียมบุกวัด โวยโดนหมิ่นศักดิ์ศรี ด้านพระครูรีบแจง แค่หยอกเล่น)ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ วัดโสภณธรรมาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบนายพุศตม์ ขอดเมชัย ผู้อำนวยการสำนังานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ และพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม ที่ใช้ชื่อโพสต์ว่า “วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม” เป็นระดับเจ้าอาวาสของวัดเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง มีเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธศาสนา จังหวัดสุรินทร์ เข้าพบ และพูดคุยถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยพระบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะกล่าวหา แค่อยากหยอกล้อเล่นเท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายอะไร แต่เมื่อเข้าใจผิด ก็ได้ขอโทษกับสิ่งที่โพสต์ลงไป โดยเมื่อคืนก็เข้าไปขอโทษที่แชตเฟซบุ๊กส่วนตัวของสาวสองแล้ว ส่วนช่วงบ่ายๆ ที่มีกระแสว่า กลุ่มสาวสองจะรวมตัวกันที่ อบต.ท่าสว่าง พร้อมกับจะเดินทางมาที่วัดโสภณธรรมาราม นั้น พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม กล่าวว่า ตนติดกิจนิมนต์ที่ต่างอำเภอไม่สามารถอยู่พบปะได้ แต่จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนให้การต้อนรับและประสานทำความเข้าใจให้กับกลุ่มผู้เสียหายและช่วงเวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ห้องประชุมสภา อบต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวพบสาวสองนางรำอัปสราพร้อมกับกลุ่มเพื่อนกว่า ๑๐ คน ได้มาถึงที่ อบต.ท่าสว่าง ซึ่งมีนายพุศตม์ ขอดเมชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์, นาง จรรยา รุ่งเรือง ผญ.๑๓ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายบุญร่วม รุ่งเรือง นายก อบต.ท่าสว่าง, พระครู อุดร ประชานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ วัดอุดรประชาราช บ้านนาเกา ต.แกใหญ่ และพระครู สุนทร สีลวัฒน์ เจ้าคณะตำบลท่าสว่าง วัดสามัคคี ร่วมพูดคุยกับสาวสองนางรำอัปสรากว่า ๑๐ คน ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้ว โดยในห้องประชุมสภาไร้ตัวพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ (พระครูที่โพสต์ว่าสาวสอง) เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม ไม่ได้มาเข้าร่วม เนื่องจากบอกติดเทศน์กิจนิมนต์ที่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์บรรยากาศภายในห้องเป็นการพูดคุยโต้เถียงกันได้พักใหญ่ ส่วนเรื่องการพูดกล่าวคำว่า อุบาทว์นั้นเป็นโพสต์เกี่ยวกับตน และผู้โพสต์ต้นเรื่องคือพระครู สุนทร สีลวัฒน์ เจ้าคณะตำบลท่าสว่าง วัดสามัคคีเป็นผู้โพสต์ข้อความ “สุขุมวิทซอย ๑๑ เป็นปรากฏการณ์ สาวสองมารวมตัวกัน คงจะมีสาวสองรวมตัวกันแถวๆ ต.เฉนียง ใกล้ๆ อบต.แน่ๆ” และทางพระครูวิทยาเป็นผู้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ไม่ใช้คำว่าอุบาทว์ก็บุญแล้ว โดยนางรำต้องการให้พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ (พระครูที่โพสต์ว่าสาวสอง) เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม มาเพื่อพูดคุยกันด้วยตัวเองมิใช่แค่ขอโทษออกสื่อ ซึ่งไม่ได้เป็นการขอโทษต่อหน้า ทางสาวสองถึงจะพอใจ ซึ่งทางพระครู อุดร ประชานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ ได้นัดใหม่อีกที่คือวันนี้ (๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗) ในเวลา ๑๘.๐๐ น.ล่าสุด เมื่อเวลา ๑๘.๐๐ น. ที่วัดสามัคคี ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ สาวสองนางรำอัปสราพร้อมกับกลุ่มเพื่อนกว่า ๑๐ คน ได้มาที่วัดเพื่อเจรจากับพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม โดยมีนาย พุศตม์ ขอดเมชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์, พระครู อุดร ประชานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ วัดอุดรประชาราช บ้านนาเกา ต.แกใหญ่ และพระครู สุนทร สีลวัฒน์ เจ้าคณะตำบลท่าสว่าง ร่วมเจรจา จากนั้นพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ (พระครูที่โพสต์ว่าสาวสอง) เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม มาถึงพร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นด้วยความตึงเครียดด้วยการโต้กันไปมาได้ประมาณกว่า ๑ ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่า พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ (พระครูที่โพสต์ว่าสาวสอง) เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม ต้องขอโทษสาวสองนางรำอัปสราทั้ง ๗ คน ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม ได้กล่าวขอโทษ ขออภัยกับสาวสองนางรำอัปสราและเพื่อนๆ พร้อมกับต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจกับสาวสองนางรำอัปสราทั้ง ๗ คนเป็นอย่างมาก.(อ่าน “ข่าวโซเชียล” ทั้งหมดที่นี่)
