ที่หน้าวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. วันที่ ๑๓ มี.ค. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ๗๓ รูป ที่หน้าวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานชั่วคราวของพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรมีประชาชนพากันเข้าแถวสักการะพระบรมสารีริกธาตุยาวเหยียดกว่า ๕๐๐ เมตร และเนื่องจากวันที่ ๑๓ มี.ค. เป็นวันที่เปิดให้เข้าสักการะเป็นวันสุดท้าย คนส่วนใหญ่จึงเดินทางมารอตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐ น. ขณะที่เมื่อค่ำวันที่ ๑๒ มี.ค. มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุกันล้นหลามโดยต่อแถวยาวออกมานอกวัดเกือบ ๑ กม.เจ้าหน้าที่ต้องปรับการเดินแถวหน้ากระดานเข้าสักการะจาก ๔ แถว เป็น ๗ แถว อำนวยความสะดวกผู้ที่เข้าสักการะที่ตลอดทั้งวันมีจำนวนมากถึง ๒๒๐,๖๒๕ คน ส่วนยอดสะสม ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๐-๑๒ มี.ค. รวม ๕๑๒,๗๓๒ คนนางมิด โพธิลา อายุ ๕๗ ปี ชาวเมืองสองคอน แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว เผยว่า เดินทางมากับครอบครัวรวม ๑๔ คน เหมารถตู้จากบ้านที่ สปป.ลาวข้ามด่านสะพานมิตรภาพ จ.มุกดาหาร เดินทางมาร่วมสักการะโดยทราบข่าวจากสื่อโซเชียลว่าจะมีการนำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่อุบลราชธานี จึงมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตขณะที่ในเช้าวันที่ ๑๔ มี.ค. จังหวัดอุบลราชธานีมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ก่อนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุฯออกจากวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน ๒๑ อุบล ราชธานี นำขึ้นเครื่องบินอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือวัดบางโทง ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ที่ได้เตรียมความพร้อมของสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางมาสักการะ ส่วนสถานที่จอดรถจัดไว้หลายจุดโดยรอบวัดและจัดรถรับ-ส่งทุกจุดจอดรถ ส่วนการแต่งกายเข้าสักการะ ขอให้ประชาชนแต่งกายด้วยชุดสุภาพ งดเสื้อผ้าโทนสีดำและเตรียมสิ่งของจำเป็นติดตัวมาด้วย เช่น ยารักษาโรค ยาดม น้ำดื่ม ดอกไม้ มาให้พร้อม คาดว่าแต่ละวันจะมีประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้หลั่งไหลมาสักการะจำนวนมากอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
