แม่ทัพภาคที่ ๑ เรียกคณะกรรมการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร ประจำปี ๒๕๖๗ ติวเข้มรับฤดูกาลเกณฑ์ทหาร ทั้ง ๔๖ หน่วย เพื่อย้ำนโยบายผู้บังคับบัญชาให้ภารกิจเรียบร้อย ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงตรง เป็นธรรม เมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. วันที่ ๑๔ มี.ค. ๖๗ ที่หอประชุมกองทัพภาคที่ ๑ พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ ๑ เป็นประธานการปฐมนิเทศการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ประจำปี ๒๕๖๗ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชากองทัพภาคที่ ๑ และหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนร่วมพิธี การปฐมนิเทศการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ในครั้งนี้ได้เรียนเชิญคณะผู้บังคับบัญชา, คณะกรรมการตรวจเลือก ทั้งหมด ๔๖ คณะ ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการ, กรรมการนายทหารสัญญาบัตรคนที่ ๑, กรรมการนายทหารสัญญาบัตร คนที่ ๒, กรรมการแพทย์ และกรรมการสัสดีจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่รับคำร้องและเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลประจำคณะกรรมการตรวจเลือก จำนวนทั้งสิ้น ๓๖๘ นาย เพื่อรับทราบนโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งมีความห่วงใย และมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายด้วยความเรียบร้อยและสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทั้งนี้ในปีนี้ ตามนโยบายของกองทัพบก ได้กำหนดให้มีการประเมินผลความรู้ความเข้าใจของคณะกรรมการในแต่ละหน้าที่ด้วย รวมถึงมาตรการเพื่อความโปร่งใส กล่าวคือ การกำหนดให้กรรมการแต่ละหน้าที่ เป็นคณะกรรมการตรวจเลือกชุดใด จะไปทำการตรวจเลือกฯ ในพื้นที่ใด ให้กระทำโดยวิธีจับสลาก ซึ่งจะดำเนินการในห้วงวันที่ ๒๘ -๒๙ มี.ค. พร้อมกันทั้ง ๔ กองทัพภาค แม่ทัพภาคที่ ๑ ได้ให้โอวาทพร้อมมอบนโยบายการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี ๒๕๖๗ ว่า การเชิญทุกท่านมารับการปฐมนิเทศเพื่อรับทราบนโยบายของผู้บังคับบัญชา หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ตามที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในทุกระดับมีความห่วงใย และมุ่งหวังในตัวท่านเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านเป็นผู้ที่ผู้บังคับบัญชาให้ความไว้วางใจ มีความเที่ยงตรง มีความรู้ความสามารถ ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จนสำเร็จลุล่วง ตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี ดังนั้น ในการตรวจเลือกปีนี้ ขอเน้นย้ำให้คณะกรรมการทุกนาย ยึดถือและปฏิบัติ ดังนี้ ประการแรก จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงตรง เป็นธรรม โดยยึดถือกฎหมายระเบียบคำสั่ง ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ประการที่ ๒ จะใช้ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดทั้งสิ้น ประการที่ ๓ จะแนะนำช่วยเหลือประชาชน น้องๆ ทหารกองเกิน หรือผู้ปกครอง ให้ได้รับความสะดวกตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ถูกต้อง และประการที่ ๔ ในฐานะประธานกรรมการตรวจเลือก จะต้องกำกับดูแลหรือมอบหมายให้ผู้ช่วยประธานตรวจสอบการปฏิบัติของคณะกรรมการทุกหน้าที่ในแต่ละโต๊ะ ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ในการปล่อยตัว ประธานต้องตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
