Thursday, 19 December 2024

ทุกอย่างต้องใช้เวลา เชื่อทยอยเห็นผล "เศรษฐา" แจง อยากให้ชาวโลกเห็นผ้าขาวม้าไทย

“นายกฯ นิด” แย้ม ๒๑ มีนาคมนี้ ประธานไมโครซอฟท์เยือนไทย ย้ำ ทุกอย่างต้องใช้เวลา เชื่อว่าจะทยอยเห็นผลงานมากขึ้น เมินเสียงวิจารณ์ แต่ห่วงข้าราชการที่ทำงานหนัก ไม่อยากให้ท้อถอย ส่วนฟรีวีซ่าเชงเก้น รัฐบาลกำลังพยายาม ไม่ใช่ประเทศเดียวที่จะสามารถตกลงได้วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ตอบคำถามถึงการจัดแข่งฟอร์มูลาอี กับฟอร์มูลาวัน สิ่งไหนจะเกิดก่อนกัน และเหตุผลที่จะจัดงานที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ฟอร์มูลาอีเกิดขึ้นก่อนแน่นอน เพราะฟอร์มูลาวันจะเกิดขึ้นเร็วสุดในปี ๒๐๒๗ ส่วนที่เราจะไปจัดที่ จ.เชียงใหม่ เพราะมี ๒-๓ เมืองที่เห็นว่าเหมาะสม ซึ่งทางฟอร์มูลาอีจะไปพบตนที่ จ.เชียงใหม่ ก็ต้องไปดูผลตอบรับที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเขามากันเต็มที่เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ในการเดินทางต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ได้ยินตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา ข้อเท็จจริงคือการลงทุนในระดับแสนล้าน ไม่ได้ใช้เวลาตัดสินใจภายใน ๒-๓ เดือน หลายๆ เรื่องต้องใช้เวลาพิจารณานาน และบางเรื่องเป็นการต่อยอดจากรัฐบาลที่ผ่านมา ต่อยอดในโครงการที่ดีๆ การที่เดินทางไปบอกกับทั่วโลกว่าประเทศไทยเปิดแล้ว หรือมีความเหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุน ไม่ใช่เป็นเรื่องของตนเพียงคนเดียว “แม้ว่าจะชอบ หรือไม่ชอบในตัวผม แต่ขออย่าด้อยค่าศักยภาพของประเทศไทย และหน้าที่ของผมคือการพิสูจน์ตัวเอง บอกให้ทั่วโลกได้รู้ว่าไทยมีอะไรดีบ้าง ซึ่งข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้มีส่วนร่วมในการทำงานมาโดยตลอด รวมถึงทีมงานของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก็ได้มีการเตรียมการบ้านไว้เยอะมาก ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่อยู่ดีๆ แล้วผมจะบินเข้าไปเจอได้เลย แต่เป็นการเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หรือหากย้อนไปในเรื่องของวีซ่าฟรี ที่มีบางฝ่ายมองว่าไทยอาจจะไม่ได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายกระทรวงการต่างประเทศก็สามารถทำได้”ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามทยอยทำเรื่อยๆ เช่น วีซ่าเชงเก้น ต้องยอมรับว่าสหภาพยุโรปมีหลายประเทศ ไม่ใช่ประเทศเดียวที่จะสามารถตกลงได้ เราต้องการให้ทุกประเทศมีความสบายใจ และทำให้คนไทยสามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งทางยุโรปกังวลมากสุดคือเรื่องการลี้ภัย จึงต้องมีการพูดคุย และกระทรวงการต่างประเทศก็ให้ข้อมูลชัดเจนว่าเรามีมาตรการที่จะปกป้องเรื่องนี้ได้ จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน ส่วนการลงทุนของ data center จากบริษัท เช่น google หรือ microsoft บริษัทเหล่านี้ลงทุนเป็นแสนล้าน หรือ Tesla ที่ต้องการเข้ามาลงทุน ก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาสภาพแวดล้อม เรื่องของที่ดิน เราจึงจำเป็นต้องให้เวลาตรงนี้ ตนคิดว่าการที่รัฐบาลได้ประกาศ IGNITE Thailand ใน ๘ ข้อ จะเป็นการเสริมศักยภาพของประเทศไทยต่อไป เพื่อให้ทั่วโลกได้เข้าใจว่าประเทศไทยดีอย่างไร และเหมาะสมที่จะมาลงทุนในประเทศไทย อีกทั้งเชื่อว่าการที่อยู่ในตำแหน่งนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองเรื่อยๆ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็สอบถามมา ตนมีหน้าที่ตอบ เพราะการที่จะทำงานใหญ่ให้คนมาลงทุนเป็นล้านๆ ไม่ใช่แค่ตนเพียงคนเดียว แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นผลงานของทีมงานข้าราชการที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย “ทุกอย่างต้องใช้เวลาที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ จากนี้ต่อไปเชื่อว่าจะทยอยเห็นผลงานมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในวันที่ ๒๑ มีนาคม ประธานไมโครซอฟท์ จะมาเยือนที่ทำเนียบรัฐบาล และมีหลายบริษัทระดับโลกที่มีการตกลงกันแล้ว แต่ขอเก็บไว้ก่อน ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรกับเสียงวิจารณ์ แต่เป็นห่วงข้าราชการที่ทำงานมาหนัก ไม่อยากให้เขารู้สึกท้อถอยกับเสียงติฉินนินทาเหล่านี้”  ส่วนคำถามถึงผ้าขาวม้าที่นายกรัฐมนตรีนำไปต่างประเทศ ได้นำมาโชว์ครบทุกผืนหรือไม่ เพราะมีโอกาสพบกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ รวมถึงมีโอกาสจะต่อยอดได้หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า “เอาไปน้อยไปนิดนึง เหลือผืนสองผืน แต่เป็นสีที่คล้ายกัน พยายามจะใช้ให้มากที่สุด แต่ก็เรียนตรงๆ ว่าไม่ได้หาซื้อมาเพื่อเป็นผู้นำแฟชั่นจ๋า แต่เป็นผ้าขาวม้าของพี่น้องประชาชนที่นำมามอบให้ หรือผูกเอวให้ด้วยความรัก ความผูกพัน ผมจึงอยากจะช่วยตอบสนองเขาด้วยการนำผลิตภัณฑ์ที่ดีๆ ไปให้กับชาวโลกได้เห็นว่าเราก็มีผลิตภัณฑ์แบบนี้เหมือนกัน”อย่างไรก็ตาม ถามต่อว่า ต่างชาติมีความสนใจจะนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ก็มีสนใจ แต่ต้องใช้เวลา เพราะแบรนด์ใหญ่ๆ ทั่วโลกก็มีมาตรฐานระดับโลก รวมถึงที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ก็มีส่วน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของไทยคงต้องใช้เวลา แต่ตนได้พยายามเชื้อเชิญบริษัทแฟชั่นจากฝรั่งเศสให้มาดูว่าสามารถประสานความร่วมมือตรงไหนได้บ้าง ซึ่งจะมีข่าวดีในความร่วมมือของบริษัทไทยและฝรั่งเศส จะจัดงานร่วมกัน รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมาเยือนไทยในปีหน้าด้วย.