การเลือกตั้งขั้นต้นคัดเลือกตัวแทนพรรคที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้จะเป็นความจริง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในเดือน พฤศจิกายนนี้ การเลือกตั้งขั้นต้นทั่วไป หรือ Super Tuesday ทั้ง ๑๕ รัฐที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง ผลปรากฏว่า อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงเกินกว่า ๘๐%ในขณะที่ โจ ไบเดน ประกาศพร้อมจะเป็นคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯกับ ทรัมป์ หาเสียงเอาจากกลุ่มผู้สนับสนุนที่ออกมาต่อต้านทรัมป์ และกลุ่มอิสระ เข้าใจหัวอกคนอเมริกัน ที่ไม่มีตัวเลือก การเมืองสหรัฐฯเริ่มจะคล้ายกับการเมืองไทยเข้าไปทุกที มีแต่ตัวเลือกเดิมๆ ในบรรยากาศเดิมๆยังต้องไปว่ากันอีกหลายขั้นตอน โจ ไบเดน ในฝั่งของ เดโมแครต ยังขาดคะแนนเดลิเกตอีกเล็กน้อยก็จะเป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต คนส่วนหนึ่งก็ไม่พอใจผลงานของไบเดนในรอบ ๔ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ และการตัดสินใจระหว่างประเทศ แต่ทรัมป์ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เมื่อผู้สมัครคนอื่นถอนตัวกันหมด คนส่วนใหญ่จำใจที่จะเลือกทรัมป์มากกว่าไบเดน อีกส่วนหนึ่งกลับมองว่า ไบเดน เป็นผู้นำที่เห็นแก่ส่วนรวม ส่วนทรัมป์เดินเกมการเมืองเพื่อตัวเองมีข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเลิกจ้างงานในเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีการเลิกจ้างถึง ๘.๔ หมื่นอัตรา เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙ จากเดือนเดียวกันปีที่แล้วสาเหตุเพราะธุรกิจต่างๆมีการปรับลดต้นทุนลง และมีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานมากขึ้น ปรากฏว่า การเลิกจ้างงานกลายเป็นภาคเทคโนโลยี มีการปลดพนักงานถึง ๒.๘ หมื่นอัตรา ตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการจากการว่างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อยู่ที่ ๒๑๗,๐๐๐ ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาล่าสุด โจ ไบเดน ได้ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณ ๔.๖ แสนล้านดอลลาร์ ใช้ในการครอบคลุมงานหลักของรัฐบาล ได้แก่ กิจการทหาร เกษตรกรรม การพาณิชย์ ความยุติธรรม การขนส่ง การเคหะและพัฒนาเมือง ด้านพลังงานเป็นครั้งที่ ๔ ในปีงบประมาณที่ สภาคองเกรส ต้องเห็นชอบร่างงบประมาณระยะสั้น เพื่อให้รัฐบาลมีเงินทำงานได้ โดยไม่ต้อง ชัตดาวน์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับงานบางส่วนของรัฐในปลายสัปดาห์นี้ซึ่งจะมีผลต่อ การตัดสินใจในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากนโยบายต่างๆ และสวัสดิการจากรัฐบาลด้วย ไม่ว่าจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของคนอเมริกัน หรือผลกระทบที่เกิดจากนโยบายของรัฐ เช่น นโยบายค่าแรง นโยบายด้านภาษี สวัสดิการด้านต่างๆที่ลดลงสรุปแล้ว ถึงทรัมป์จะไม่มีคนชอบแต่ทรัมป์ก็น่าจะเป็นตัวเลือก ที่พอจะท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจาก โจ ไบเดน ได้ จากปัญหาสุขภาพ ความล่าช้าในการตัดสินใจ ข้อผิดพลาดของนโยบาย และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศการเมืองที่ไหนก็เหมือนกัน เบื่อๆ อยากๆ คนเก่าที่เคยเบื่อแสนเบื่อมาเจอคนใหม่กลับน่าเบื่อกว่า ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมาชาวบ้านยังท่องจำกันอยู่ว่า มีลุงไม่มีเรา ไม่ทันไร ถามหาลุงอยู่ไหน เริ่มคิดถึงลุงตงิดๆ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
