สถานการณ์การเมืองที่ อึมครึม ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล นักการเมืองมืออาชีพ ก็ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าใน ๓ เดือน ๖ เดือนหรือปีนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างและจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองอย่างไรบ้าง ประเด็นที่ สว.หรือ สส.ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เป็นแค่น้ำจิ้ม เป็นแค่วาทกรรมทางการเมือง ตราบใดที่รัฐบาลยังมีเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเกิน ๓๐๐ เสียง ส่วนจะอยู่กันไปแบบทุลักทุเลแค่ไหนเป็นอีกเรื่อง เป็นธรรมชาติของการเมืองไทยอยู่แล้ว ถ้าไม่ตีกัน ไม่เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่สร้างภาพก็ไม่ใช่การเมืองไทยประเด็นหลักของการเมืองไปโฟกัสที่ กกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคการเมือง ถอดถอนสิทธิทางการเมืองนักการเมืองตลอดชีวิต จึงจะเป็นภัยที่คุกคามเสถียรภาพทางการเมืองที่แท้จริงพรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล คงมองเห็นชะตาชีวิตทางการเมืองชัดแจ๋วแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือการร้องให้ ป.ป.ช.วินิจฉัย ๔๔ สส.ก้าวไกลที่ลงชื่อเสนอแก้ ม.๑๑๒ สองเด้ง ต่อให้มีปีกบินก็หนีไม่พ้น ความสำคัญของเรื่องอยู่ที่หลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบก้าวไกลแล้ว จะมีผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างไรบ้างก้าวไกลคงไปเอาคืนในสนามเลือกตั้ง ทั้งสนามเล็ก สนามใหญ่ สร้างปรากฏการณ์ แลนด์สไลด์ ให้ได้ ถึงจะมีโอกาสเอาชนะทางการเมืองได้ ยกเว้นว่าจะโดนสอยร่วงอีกระลอก จะว่าไปไทยรักไทย พลังประชาชน รวมไทยรักษาชาติ จนมาเป็นเพื่อไทย หืดขึ้นคอมาแล้ว จนสุดท้ายต้องยอมจำนนถ้าเอามาเป็นพวกไม่ได้ก็ต้องถูกฆ่าตายในสนามรบถึงเวลานี้ ก้าวไกลเองยืนอยู่บนดาบสองคม จะตระบัดสัตย์ ต่ออุดมการณ์ทางการเมืองที่เดินมาเกินครึ่งทางแล้วก็ไม่ได้ จะเดินต่อไป หนทางก็ยากลำบาก ได้แค่ไปตายเอาดาบหน้าแต่ เพื่อไทย และ พรรคร่วมรัฐบาล ก็ใช่ว่า จะอยู่อย่างราบรื่น มีชนักติดหลังกันทุกพรรค พรรคใหญ่ถูกร้องยุบพรรค ถูกถอดถอนให้ตกจากเก้าอี้กันคนละคดีสองคดี แม้แต่เรื่องการแก้ ม.๑๑๒ ก็มีคนเอาหลักฐานไปร้อง กกต.ว่า เพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเวลานั้น ก็หาเสียงว่าจะแก้ไขวิธีการบังคับใช้ ม.๑๑๒ ต่างกับก้าวไกลตรงที่ก้าวไกลได้เสนอแก้ไข ป.อาญา ม.๑๑๒ ไปแล้ว เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ของพรรคเพื่อไทยแต่ที่ต้องคิดให้ไกลกว่านั้น ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วและองค์ประกอบครบแล้ว คือการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย กรณีที่ศาลมีคำวินิจฉัยการถือครองหุ้นของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการคมนาคม และมีการรับเงินบริจาคจากบริษัทเอกชนดังกล่าว ซึ่งถูกกล่าวหาว่า รับเงินบริจาคโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายพรรคภูมิใจไทยจะถูกยุบหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ายุบภูมิใจไทยด้วย เสถียรภาพรัฐบาลจะสั่นคลอนทันที มีอยู่สองวิธีต้องเอาเสียง สส.จากก้าวไกลและภูมิใจไทยหรือจะเอาจากฝ่ายค้านที่เหลือมาสมทบ แต่ถ้ายังเอาไม่อยู่ เสถียรภาพและสถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายก็เหลือไพ่ใบสุดท้ายอำนาจการยุบสภาของนายกฯ (บ้างก็ว่าเป็นทางลงของดิจิทัลวอลเล็ต)หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
Related posts