อาจถือได้ว่านายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรก ที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร “ไทม์” หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้เพียง ๖ เดือน โดยขึ้นปกภายใต้หัวข้อ “เดอะเซลส์แมน” ในฐานะผู้นำประเทศที่เดินทางไปมาแล้วกว่า ๑๐ ประเทศ เพื่อประกาศว่าไทยเปิดประเทศแล้ว ขอเชิญชวนให้มาท่องเที่ยว ลงทุน และค้าขาย“ไทม์” รายงานว่านายกฯเศรษฐา ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ในไตรมาสที่ ๔ ของปี ๒๕๖๖ มีบริษัทต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นถึง ๒ เท่า รวมเป็นเงินลงทุน ๘.๓ พันล้านดอลลาร์ จากบรรดายักษ์ใหญ่ เช่น แอมะซอน กูเกิล และไมโครซอฟท์ ด้วยเสน่ห์ของเซลส์แมน ที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสินในด้านการเมือง นิตยสาร “ไทม์” รายงานว่ากองทัพไทยยึดอำนาจเมื่อปี ๒๕๕๗ และเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจอยู่ ๑ ทศวรรษ มีกลุ่มคนหนุ่มสาวออกมาเรียกร้องกองทัพให้หยุดก้าวก่ายกระบวนการประชาธิปไตย และนายเศรษฐาพูดถึงการแก้ปัญหาความยากจน เพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งความว่า “เมื่อเป็นซีอีโอบริษัท ทำให้คุณรู้ว่าอำนาจมีจำกัด แต่ที่ผมประหลาดใจที่สุดคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีกลับไม่มีอำนาจ” ทำให้นักข่าวถามว่า “เป็นหุ่นเชิดของทักษิณ ชินวัตร คอยกดรีโมตให้ไปทางซ้ายทางขวาใช่หรือไม่” แต่มีคำตอบว่า “ผมควบคุมอยู่นะครับ”รู้สึกว่านายกรัฐมนตรีจะพูดคำว่า “ซีอีโอ” เป็นครั้งแรกนับแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้นำระบบ “ผู้ว่าราชการจังหวัดซีอีโอ” มาปัดฝุ่น และนำกลับมาใช้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๖ ผู้ว่าฯซีอีโอเป็นระบบที่ใช้ในรัฐบาลทักษิณ ระหว่างปี ๒๕๔๔ ถึง ๒๕๔๙ ให้ผู้ว่าฯเป็นผู้จัดการจังหวัดเบ็ดเสร็จเป็นระบบที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าล้าสมัย ถอยหลังเข้าคลองแบบรัฐราชการรวมศูนย์ ขัดกับนโยบายของพรรคประชา ธิปไตยที่ก้าวหน้า ที่เสนอให้รัฐสภา รวมทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันศึกษา เพื่อดูว่ามีจังหวัดใดบ้างที่มีความพร้อม ที่จะเลือกตั้งผู้ว่าฯแบบ กทม.ประเทศไทยในหลายปีที่ผ่านมา เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม มีการขยายตัวเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่หมู่บ้านชนบทอีกต่อไป แม้แต่ในระดับหมู่บ้านและตำบล ก็คือการปกครองระดับ อบต. เทศบาล ระดับจังหวัดก็มี อบจ. จึงควรเลือกตั้งผู้ว่าฯจังหวัดที่มีความพร้อม.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
