Thursday, 19 December 2024

“รัดเกล้า” ติงก้าวไกล ลงพื้นที่ดูไฟป่าชนกับรัฐบาล หวั่นเพิ่มภาระเจ้าหน้าที่

“รัดเกล้า” ย้ำหลักการ Crisis Management วอนก้าวไกลให้เกียรติรัฐบาลแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM ๒.๕ ติง ระวังทำงานซ้ำซ้อน ทำประชาชนสับสน และอาจสร้างภาระเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น แนะหันกลับมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๗ นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในยามเผชิญกับวิกฤติ หนึ่งในแนวทางบริหารวิกฤติ (Crisis Management) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องยึดใน ๔ หลักการ หรือจำง่ายๆ ว่า ๔C ประกอบด้วยการมี Command Center (ศูนย์บัญชาการ) เพื่อทำหน้าที่ Coordinate (บริหารจัดการแบบบูรณาการ) Communicate (สื่อสาร) และ Control Supply & Resource (บริหารจัดการทรัพยากร)ในสถานการณ์วิกฤติระดับประเทศ เช่น ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM ๒.๕ รัฐบาลควรเป็น Single Command Center (ศูนย์บัญชาการเพียงหนึ่งเดียว) ในการแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญ เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวและเดินหน้าขึ้นเหนือลุยงานแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM ๒.๕ ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่การที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าร่วมกับภาคประชาสังคม ขอให้ระมัดระวัง อย่าให้เป็นการทำงานซ้ำซ้อนกับรัฐบาล รวมถึงขออย่าได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนและผู้ดำเนินการ เพราะเป็นห่วงว่าอาจจะเป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงตุลาคม ๒๕๖๖ ที่ความขัดแย้งในประเทศอิสราเอลเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ แล้วนายพิธา เสนอตนเป็นคนกลางรับประสานคนไทยที่ต้องการติดต่อหาญาติ จนท้ายสุดสร้างความสับสนให้กับคนไทยที่ประสบวิกฤติ และก่ออุปสรรคให้กับผู้ที่ต้องรับผิดชอบงานโดยตรงปัจจุบัน รัฐบาลทำงานอย่างเข้มงวด โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีมาตรการในการตรึงพื้นที่ด้วยการตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าใน ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ๒,๗๐๐ จุด (๓,๘๙๓ จุดทั่วประเทศ) ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สืบเนื่องมาจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ที่อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗๒,๖๕๕,๓๕๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM ๒.๕ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ของกรมป่าไม้ เป็นเงิน ๑๐๙,๙๔๖,๖๕๐ บาท และของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเงิน ๑๖๒,๗๐๘,๗๐๐ บาทนางรัดเกล้า ระบุต่อไปว่า รัฐบาลรับทราบถึงความห่วงใย ความตั้งใจ และความร้อนใจของ นายพิธา และ สส.พรรคก้าวไกล ในพื้นที่เชียงใหม่ทั้ง ๗ คน รวมถึงผู้ที่มีบทบาททำงานอยู่ในคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมทุกท่าน แต่ขอให้แยกแยะบทบาทหน้าที่เพื่อให้มีการทำงานบริหารประเทศและบริหารปัญหาครั้งนี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ นายพิธาและคณะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไป เช่น ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ การสร้างสถานีน้ำ หรือข้อสงสัยในกำหนดการประกาศพื้นที่ภัยพิบัตินั้น รัฐบาลรับทราบ รับฟัง แต่วอนขอให้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาอย่างมีหลักการและเป็นระบบ ขอให้นำข้อเสนอแนะมาหารือกับรัฐบาลโดยตรง ให้เกิดความร่วมมือกันเพื่อสร้างทางออกให้กับประชาชนอย่างแท้จริง“เป็นสิ่งน่าชื่นชมที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงเป็นใยในปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM ๒.๕ ที่เกิดขึ้น แต่การเดินทางไปลงพื้นที่ในเวลาเดียวกันกับรัฐบาลนั้น นอกเหนือจากอาจสร้างความสับสนให้ประชาชนแล้ว ยังอาจเป็นการสร้างภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้พื้นที่เพิ่มขึ้นด้วย เกรงว่าเจตนารมณ์ที่ดีของพรรคก้าวไกลจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวัตถุประสงค์ทางการเมือง มือไม่พายเอาเท้าราน้ำได้ เพราะสุดท้ายแล้วรัฐบาลเป็นผู้ที่มีอำนาจและบทบาทโดยตรงในการสั่งการ และแก้ปัญหาตรงนี้อยู่ ขอให้พรรคก้าวไกล หันกลับมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านของตัวเองตามที่เหมาะสมให้ดีที่สุด การบริหารของประเทศของรัฐบาลหากขาดตก บกพร่องในจุดใด ขอให้รวบรวมข้อมูล นำเสนอทางออกที่ดีกว่า หากทำได้เช่นนี้ ฝ่ายค้านจะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติให้ก้าวหน้า ก้าวไกล ได้สมชื่อจริงๆ”