Tuesday, 19 November 2024

"สมศักดิ์" ห่วงกองทุนหมู่บ้าน สั่งเร่งช่วยเหลือ ย้ำสมาชิกต้องหมดหนี้

“รองนายกฯ สมศักดิ์ ห่วงกองทุนหมู่บ้าน ที่ขาดการติดต่อ ๑.๖ หมื่นกองทุน สั่งเร่งช่วยเหลือ ย้ำต้องทำให้สมาชิกหมดหนี้ ชี้ผู้ตั้งกองทุนหมู่บ้าน “อดีตนายกฯ ทักษิณ” กลับมาแล้ว เชื่อช่วยสานงานต่อแน่นอน เผยต้องการช่วยเหลือคนชนบท จึงต่อสู้ให้เลี้ยงวัวมา ๒๐ ปีแล้ว ปลื้มโครงการเลี้ยงโคกำลังเดินหน้า เมื่อวันที่ ๑๕ มี.ค. ๖๗ ที่โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กทม. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการติดตามประเมินผลสถานะการเงิน และศักยภาพการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เข้าร่วมโดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เพราะกองทุนหมู่บ้านฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ ซึ่งมีกองทุนหมู่บ้านฯ เติบโต ๗๙,๖๑๐ กองทุน แต่ยังมี ๑๖,๐๔๗ กองทุน ที่ไม่สามารถดำเนินการหรือส่งงบการเงินตามระเบียบของกองทุนหมู่บ้านได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย แต่ถ้าเราพัฒนาระบบที่ดีและทำให้เกิดความเข้าใจ รวมถึงมีจิตใจสู้ก็จะสามารถก้าวพ้นจากการเป็นหนี้สินได้ โดยจากนี้ ตนก็ขอให้ช่วยกันทำให้กองทุนที่หายไป สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้ง “เราต้องช่วยกันทำให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ไม่เป็นหนี้สินอีก รวมถึงต้องช่วยเหลือกองทุนที่ไม่ส่งงบการเงิน เพราะเราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งผมตั้งใจช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่สมัยเป็น รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ที่ต้องการแก้ปัญหาความยากจน ให้กับคนชนบท จึงต่อสู้เรื่องการส่งเสริมเลี้ยงวัวมาถึงทุกวันนี้ โดยถ้ามีการเลี้ยงวัวเมื่อ ๒๐ ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันก็จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่ด้วยสถานกาณ์การเมืองจึงทำให้โครงการไม่ต่อเนื่อง แต่วันนี้โอกาสมาถึงแล้ว อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ตั้งกองทุนหมู่บ้านฯ ได้กลับมาแล้ว ผมเชื่อว่าท่านไม่ทิ้งแน่นอน และพร้อมสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านฯ สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวนายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ๑๓ ล้านครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงวัวอย่างเดียว แต่ถ้ายังคิดอะไรไม่ออกก็ให้เลี้ยงวัวไปก่อน เพราะจากโครงการเลี้ยงวัวนำร่องประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากเริ่มต้นเลี้ยง ๒ ตัว ผ่านมา ๔ ปี เพิ่มเป็น ๑๐ ตัวแล้ว มีมูลค่ารวมกว่า ๒๕๐,๐๐๐ บาท ดังนั้นถ้าเลี้ยง ๑ ล้านครอบครัว ก็จะมีมูลค่า ๒.๕ แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ ส่วนราคาวัวตกต่ำก็ขอยืนยันว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนการส่งออกต่างประเทศ หรือการกักกันสัตว์ เพราะต่างประเทศจะไม่ซื้อเราถ้ามีโรคติดต่อ จึงขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างยางพารา พอรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารราคาก็ดีขึ้น ดังนั้นขอย้ำว่ารัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทั้งหมดแล้ว