“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ซัด ฝ่ายค้านเล่นการเมืองต้องมีคุณธรรม หลังโจมตี “ทักษิณ” ป่วยทิพย์ ถาม อยากจะให้อยู่แต่ในคุกถึงจะพอใจหรือไม่ เย้ย “พิธา” ลงพื้นที่เชียงใหม่ หวังวัดแสงเดิมพันตัวเอง ถามฝ่ายค้าน ไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจระบบงบประมาณวันที่ ๑๖ มี.ค. ๒๕๖๗ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พรรคฝ่ายค้าน ออกมาระบุ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเชียงใหม่ ตอกย้ำละครป่วยทิพย์ ว่า ปกติการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ ถึงขั้นผู้นำฝ่ายค้านออกมาสารภาพเอง แต่งานนี้ดูเหมือนจะสามัคคีเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเฉพาะกิจ ไม่มีการห้ามปรามตักเตือนกันแม้แต่น้อย ต้องมีทัศนคติและวิธีคิดแบบไหน ถึงทุกข์ใจที่เห็นอดีตนายกฯ ที่เป็นผู้สูงวัยมีอาการดีขึ้น และได้เดินทางกลับบ้านเกิด หลังจาก ๑๗ ปีไม่มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้าน ก่อนหน้านี้มีบางพรรคเคยเรียกร้องให้นายทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นายทักษิณก็กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จนได้รับการพักโทษตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ พรรคฝ่ายค้านอีกพรรคท่องคาถาต้องล้างผลพวงของการรัฐประหาร นายทักษิณคือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารไม่ควรได้รับอานิสงส์จากการล้างผลพวงของการรัฐประหารหรือ ใจคอคนที่ออกมาพูดจากพรรคฝ่ายค้านอยากเห็นนายทักษิณนอนป่วย อยากให้อยู่ในคุกถึงจะพอใจหรือ ปุถุชนเมื่อมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย มีวันอาการดีขึ้นมีวันแย่ลงเป็นธรรมชาติไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน ใจเขาใจเรา ทำงานการเมืองต้องมีคุณธรรมจริยธรรมนายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อไปดูดับไฟป่า ดูปัญหาฝุ่น ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายทักษิณ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง อยู่เชียงใหม่ นายพิธาควรตอบตัวเองให้ได้ว่าปัญหาไฟป่า ปัญหาฝุ่นพิษ เพิ่งเกิด หรือเกิดจุดเดียวในประเทศไทยหรือ ถึงต้องเจาะจงไปในช่วงเวลานี้และเลือกไปจังหวัดเชียงใหม่ นายพิธาจะฉกฉวยโอกาสไปประชันขันแข่งไปหาแสงวัดเรตติ้งก็ทำไป ก่อนดับไฟป่านายพิธาควรดับไฟในใจของตัวเองก่อนหรือไม่ อดีตนายกฯ ทักษิณ พบนายกฯ เศรษฐา ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นประโยชน์ แต่นายพิธาไปเชียงใหม่อาจได้แค่ขึ้นรถแห่เดิมพันกับตัวเองหรือไม่นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ สภาฯ มีอำนาจน้อย เหตุหน่วยงานใช้งบไปพลางแล้ว สงสัยตัดงบกันใหญ่วันสุดท้าย ว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะเลือกยืนในมุมตรงข้ามและสวนรัฐบาลทุกเรื่องไว้ก่อน ตนไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านไม่เข้าใจระบบงบประมาณจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจเพื่อจะสร้างคอนเทนต์ไปโปรโมตเรียกแขกให้ติดตามการอภิปรายงบประมาณ ๒๕๖๗ ในวาระ ๒-๓ หรือไม่ งบที่หน่วยรับงบประมาณใช้ไปพลางก่อนคืองบที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำ เป็นงบดำเนินงาน ประเภทเงินเดือนข้าราชการ แต่งบครุภัณฑ์สิ่งก่อสร้าง โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ยังทำไม่ได้ ต้องรองบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าตัดงบแล้วเอาไปโปะไว้เป็นงบกลางนั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะเอางบกลางไปทำอะไรก็ได้ ตัวเลขงบกลางประมาณ ๘ พันล้านบาท ถูกนำไปใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการประมาณ ๗ พันล้านบาทแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ ๑ พันล้านบาท จะเป็นงบประเภทเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็นเร่งด่วน อาทิ อุทกภัย ภัยแล้ง การที่ฝ่ายค้านต้องการสวนรัฐบาลโดยการยกมือให้ซื้อเรือฟริเกต ท่านทราบหรือยังว่าจะจัดซื้อจัดจ้างเรือจากประเทศไหน บริษัทอะไร กรอบการจัดทำงบประมาณในปีนี้ก็วางไว้ชัดตั้งแต่ต้นว่างบที่ไม่มีความชัดเจนหรือมีแนวโน้มว่าจะใช้ไม่ทันในช่วง ๕ เดือนที่เหลือ ก็ตัดไปก่อน หากมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอก็สามารถเสนอเข้ามาใหม่ในปีต่อไปได้