จีนประณามแรง สส.สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายแบน TikTok เป็นการกระทำที่ไม่ต่างจากโจร ด้าน CEO ของ TikTok เรียกร้องให้คนผลิตคอนเทนต์ออกมาคัดค้านการแบน TikTok ในสหรัฐฯหวัง เหวิน ปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายแบน TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น เมื่อ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ต่างจากโจร ‘เมื่อมีใครบางคนเห็นว่าสิ่งนี้ดี ส่วนอีกคนพยายามจะเอามาเป็นของพวกตน ทั้งหมดนี้เป็นตรรกะของโจร’ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวตอบโต้ สส.ที่ผ่านร่างกฎหมายแบน TikTokขณะที่ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ยังกล่าวตอบโต้สหรัฐฯ ว่า ควรมีความเคารพที่แท้จริงต่อหลักการของเศรษฐกิจการตลาดและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และควรหยุดการปราบปรามบริษัทต่างชาติอย่างไม่ยุติธรรม โจว โซ่ จือ เดินออกจากอาคารสำนักงานวุฒิสภาสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลังพบหารือกับสว.จอห์น เฟตเทอร์แมนเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม๒๕๖๗ เพียงหนึ่งวันหลังจากสส.สหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายแบน TikTok ด้าน โจว โซ่ว จือ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร หรือ CEO ของ TikTok ออกมาเรียกร้องให้ผู้ใช้งาน และผู้ผลิตคอนเทนต์ หรือครีเอเตอร์บน TikTok ออกมาพูดแสดงความเห็นและคัดค้าน พร้อมกับเตือนว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านวุฒิสภาและประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามรับรอง ผ่านออกมาเป็นกฎหมาย จะส่งผลกระทบต่อการสร้างงานหลายแสนอัตรา และจะทำให้เหล่าครีเอเตอร์ หรือผู้ผลิตคอนเทนต์ และธุรกิจเล็กๆ บน TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ใช้งานถึง ๑๗๐ ล้านบัญชี ต้องสูญเสียรายได้ เงินหายไปจากกระเป๋าหลายพันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ขณะเดียวกันได้มีประชาชนและสส.จำนวนหนึ่งในสหรัฐฯออกมาคัดค้านการผ่านร่างกฎหมายแบน TikTok โดยมีการรณรงค์ติดแฮชแทกคำว่า #KeepTikTok จนขึ้นเทรนด์โซเชียลทั้งนี้ เมื่อ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ สส.สหรัฐฯ ได้ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act (คุ้มครองชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ) ด้วยมติ ๓๕๒ ต่อ ๖๕ เสียง เนื่องจากกังวลว่าข้อมูลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันอาจถูกส่งให้แก่รัฐบาลจีน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติขณะที่ทางการสหรัฐฯ ได้กำหนดเวลาให้บริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในจีน ต้องขายหุ้น TikTok ที่ถือครองอยู่ให้แก่บริษัทสัญชาติอเมริกา ภายใน ๖ เดือน ก่อนจะถูกทางการสหรัฐฯ แบน TikTok สั่งถอดแอปพลิเคชัน TikTok จาก App Store ในสหรัฐฯติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา :channelnewsasia