ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ คงต้องฉายภาพไปยังแผ่นดินเกิด (เชียงใหม่) ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักสุดประมาณแม้จะเกิดปัญหา “ฝุ่นพิษ” พุ่งติดอันดับโลกก็ตามแต่บรรดาแฟนคลับก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคเพราะมีคนสำคัญของพวกเขาที่จากไปกว่า ๑๗ ปี ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าไม่ต่างกับคนที่โหยหาได้ของรักกลับคืนไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องคนในครอบครัว คนพื้นฐาน คนเสื้อแดงจากทั่ว สารทิศ รัฐมนตรี ข้าราชการที่ยังอยู่ในตำแหน่งหรือเกษียณอายุราชการไปแล้วนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่นเพื่อนเกลอเมื่อครั้งเรียนหนังสือด้วยกันมาต่างแสดงออกถึงความคิดถึงด้วยยินดีที่ได้มาเจอกันก็เป็นปรากฏการณ์ไม่เกินความคาดหมายว่าจะต้องเป็นไปอย่างนี้องคาพยพที่เกิดขึ้นนั้น…จึงไม่ต้องกังขาว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่มันคือความจริงที่ปรากฏในความเป็นผู้มีบารมีมากล้นและยังอยู่ในความทรงจำของทุกคน“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศถึง ๑๗ ปี จนกระทั่งได้คืนกลับสู่เมืองไทยอีกครั้ง“ท่านนายกรัฐมนตรี” เป็นเสียงเรียกขานจากบรรดาแฟนคลับที่ยังให้ความนิยมชมชอบ จากเมื่อครั้งทำหน้าที่เป็นผู้นำของประเทศด้วยความเป็นหนึ่งมาก่อน การมาเชียงใหม่คราวนี้นอกเหนือจากกราบไหว้บรรพบุรุษแล้ว ยังปฏิบัติภารกิจไม่ต่างไปจากการตรวจราชการเท่าใดนัก โดยมีบรรดาข้าราชการระดับปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ และรัฐมนตรีต้องอธิบายความเป็นไปต่างๆให้ฟังมีรัฐมนตรีบางคนต้องหนีงานเพื่อมาพบ อ้างว่าได้ลางานแล้วก็ไม่ว่ากันเพราะบรรดารัฐมนตรีที่บินขึ้นมาครั้งนี้นอกเหนือจากนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ที่มีภารกิจและประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรที่พะเยาและแก้ไขปัญหาต่างๆก็เลยถือโอกาสมาพบเนื่องจากครบวาระ ๕ เดือน ที่อาจจะต้องมีการปรับ คณะรัฐมนตรีจึงต้องสร้างเกราะคุ้มกันตัวเองล่วงหน้าเพื่อความชัวร์มั่นใจว่าถ้ามาพบคนนี้แล้วน่าจะปลอดภัยนายกรัฐมนตรีก็คงไม่ต่างกันเพราะทันทีที่ลงเครื่องกลับจากต่างประเทศก็เร่งภารกิจในทำเนียบเพื่อบินมาสมทบ“คงได้พบกัน”ให้คำตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลว่าจะได้พบกับ “ผู้มีพระคุณคนนี้”เหล่านี้ล้วนเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปในทางการเมืองไทยว่านายกรัฐมนตรีที่มาจากรัฐธรรมนูญยังต้องอยู่ในภายใต้บุรุษที่อยู่เหนือการเมืองการให้สัมภาษณ์นิตยสาร “ไทม์” อย่างภาคภูมิใจว่าเขาสามารถคอนโทรลอำนาจทั้งหมดด้วยตัวเองจึงมีคำถามว่ามันจริงอย่างนั้นหรือ?เพราะภาพที่ปรากฏมันไม่ใช่อย่างนั้นความจริงนายกรัฐมนตรีท่านนี้เป็นคนที่พูดเปิดเผย กล้าแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาที่รับรู้กันเป็นอย่างดีก็ควรยอมรับโดยดุษณีว่าสภาพความจริงที่ดำรงอยู่มันเป็นอย่างไรจะได้ไม่ต้องวิตกกังวลหรือไม่สบายใจเมื่อถูกมองเป็นอย่างนั้นเพราะภารกิจชีวิตในฐานะนายก รัฐมนตรียังต้องอยู่อีกหลายปีไม่ต้องเหนียมอายไปไย!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม
