กฎหมายการใช้กัญชาด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการนันทนาการในเยอรมนี มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗เยอรมนีกลายเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปที่เริ่มบังคับใช้กฎหมายการใช้กัญชาด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการนันทนาการ แม้ว่านักการเมืองฝ่ายค้านและสมาคมการแพทย์จะคัดค้านอย่างรุนแรงก็ตามภายใต้ขั้นตอนแรกของกฎหมายใหม่ ผู้ที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป จะได้รับอนุญาตให้พกพากัญชาแห้งได้ ๒๕ กรัม และปลูกต้นกัญชาที่บ้านได้สูงสุด ๓ ต้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เยอรมนีมีกฎหมายกัญชาที่มีแนวคิดเสรีนิยมมากที่สุดในยุโรป เช่นเดียวกับมอลตาและลักเซมเบิร์ก ซึ่งบังคับใช้กฎหมายการใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการในปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๖ ตามลำดับ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ ได้ใช้แนวทางที่เข้มงวดมากขึ้นในการจัดการกับการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับกัญชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนวันนี้ (๑ เม.ย.) ผู้คนหลายร้อยคนต่างส่งเสียงเชียร์ที่บริเวณประตูบรานเดนบวร์ก ในกรุงเบอร์ลิน ในขั้นตอนต่อไปของกฎหมายฉบับนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม เป็นต้นไป ประชาชนที่สนใจสามารถจัดตั้งสมาคมผู้ปลูกกัญชา หรือ “ชมรมกัญชา” ได้ หากมีสมาชิกเกิน ๕๐๐ คนขึ้นไป โดยสมาชิกของสมาคมหรือชมรมลักษณะนี้ ต้องมีอายุเกิน ๑๘ ปีและอาศัยอยู่ในเยอรมนี ขณะที่ชมรมที่เกี่ยวข้องกับกัญชาจะสามารถปลูกและแจกจ่ายกัญชาได้หากไม่เป็นการแสวงหากำไร แต่จะไม่อนุญาตให้เสพกัญชาในพื้นที่สมาคมหรือชมรมแผนการเบื้องต้นสำหรับการจำหน่ายกัญชาผ่านร้านค้าที่ได้รับใบอนุญาตได้ถูกยกเลิก เนื่องจากการคัดค้านของสหภาพยุโรป แม้ว่าจะมีกฎหมายฉบับที่สองอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการจำหน่ายในร้านค้านำร่องก็ตามรัฐบาลเยอรมนี ที่นำโดยพรรคโซเชียลเดโมแครตของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ให้เหตุผลว่าการทำให้กัญชาถูกกฎหมายจะช่วยควบคุมการซื้อขายกัญชาในตลาดมืดที่กำลังเติบโตอย่างมาก แต่กลุ่มด้านสาธารณสุขได้แสดงความกังวลว่า กฎหมายดังกล่าวอาจนำไปสู่การใช้กัญชาที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนหนุ่มสาวที่เผชิญกับความเสี่ยงต่อสุขภาพมากที่สุด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการพัฒนาระบบประสาทส่วนกลาง นำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเป็นโรคจิตและโรคจิตเภท เช่นเดียวกับนายคาร์ล เลาเทอร์บาค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ที่กล่าวว่า การบริโภคกัญชาอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะสำหรับคนหนุ่มสาวรัฐบาลได้สัญญาว่าจะรณรงค์การให้ข้อมูลเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงของการใช้กัญชาและส่งเสริมโครงการสนับสนุน นอกจากนี้ รัฐบาลยังเน้นย้ำด้วยว่ากัญชาจะยังคงถูกห้ามสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี และถูกสั่งห้ามในรัศมี ๑๐๐ เมตรจากโรงเรียน โรงเรียนอนุบาล และสนามเด็กเล่นกฎหมายดังกล่าวยังนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์จากตำรวจ ซึ่งเกรงว่าจะควบคุมได้ยาก และอาจทำให้ตำรวจตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งกับพลเมือง ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่งคือ กฎหมายจะประกาศการนิรโทษกรรมย้อนหลังสำหรับความผิดที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ที่สร้างความยุ่งยากให้กับระบบกฎหมาย จากข้อมูลของสมาคมผู้พิพากษาเยอรมนี การอภัยโทษอาจนำไปใช้กับคดีมากกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คดีที่ต้องได้รับการตรวจสอบและดำเนินการฟรีดริช เมิร์ซ ผู้นำฝ่ายค้านอนุรักษนิยมกล่าวว่า เขาจะ “ยกเลิกกฎหมาย” ทันที หากเขาและพรรคของเขาจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี ๒๕๖๘ แต่นายคริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง จากพรรค FDP กล่าวว่า การทำให้กัญชาถูกกฎหมายเป็นความเคลื่อนไหวที่ “มีความรับผิดชอบ” ดีกว่า “การนำผู้คนเข้าสู่ตลาดมืด”.ที่มา AFPติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
