Thursday, 19 December 2024

อภิปรายเพื่อใคร แล้วยังไง

การอภิปรายทั่วไปซักฟอก รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ของฝ่ายค้าน นำโดยก้าวไกลและประชาธิปัตย์ ได้น้ำได้เนื้อพอหอมปากหอมคอ ประเด็นที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปรายส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ชาวบ้านติดตามข่าวสารบ้านเมืองรู้กันอยู่แล้ว มีข้อมูลบางอย่าง หรือบางประเด็นที่ฝ่ายค้านนำมาขยายผล เปิดแผล รัฐบาลให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ๖ เดือนการทำงานของรัฐบาลเศรษฐา จะแก้ตัวว่า งบประมาณเพิ่งจะผ่านสภา เพิ่งจะเข้ามาทำงาน ผลงานยังไม่ผลิดอกออกผล หรืออะไรก็แล้วแต่ที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามจะชักแม่น้ำทั้งห้า หรือแก้ปัญหาด้วยวิธีผักชีโรยหน้า ไม่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายเพราะ ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งแล้วว่า จะเข้ามาทำทันที เพราะปัญหาของประเทศสะสมเอาไว้มากมายจากรัฐบาลชุดที่แล้วอันที่จริงรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลชุดที่แล้วก็ชุดเดียวกัน เพียงแต่เพิ่มพรรคเพื่อไทยเข้าไปเท่านั้นเอง เรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านรัฐบาลชุดไหนเข้ามาก็ต้องทำอยู่แล้ว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มเบี้ยยังชีพ ค่าครองชีพ เป็นยาสามัญประจำบ้าน หรือจะปราบปรามยาเสพติด บ่อนพนัน ผู้มีอิทธิพลที่รัฐบาลสามารถประกาศผลงานได้ทั้งปี เพราะบ้านเรามียาเสพติด มีบ่อนพนัน มีเว็บพนัน แบบยั่งยืนแต่เรื่องการฟื้นฟู ประชาธิปไตย ที่พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านรู้อยู่เต็มอก ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ประกาศว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วน ถึงเวลาเอาจริงก็เด้งเชือกกันไปมา ไม่มีใครกล้าเอากระดิ่งไปผูกคอแมว เพราะฉะนั้น ฝ่ายอนุรักษนิยม ที่มีอำนาจจากปลายกระบอกปืนอยู่ในมือ ก็เลยเป็นผู้ชนะอย่างยั่งยืนตลอดไปการที่เราจะเป็นศูนย์กลางการขนส่ง การคมนาคมทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ ประเทศไทยจะเป็นเจนีวาในภูมิภาคนี้ จะเป็นโน่นเป็นนี่ แต่ไม่มีความน่าจะเป็นแม้แต่เรื่องเดียว ก็เพราะเรายังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ยังทำหน้าที่ภายใต้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ พูดอะไรก็ได้เรายังบริหารงานกันแบบสร้างภาพ ไม่เน้นผลสำเร็จ พอถึงฤดูอภิปรายไม่ไว้วางใจที ก็จะรีบสร้างผลงานกันที แล้วก็ปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง ไม่อย่างนั้นงบประมาณปีละกว่า ๓ ล้านล้าน คงทำให้ประเทศเจริญกว่านี้ไม่ต้องรอถนนเจ็ดชั่วโคตร เป็นเพราะกฎหมาย องค์กรยุติธรรมและองค์กรตรวจสอบยังอยู่ภายใต้อำนาจนักการเมืองดังนั้น การพัฒนาของการเมืองภาคประชาชน จะมีความหมายต่อการบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง สภาพัฒน์ มีการปรับลดการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๗ เหลือแค่ ๒.๒-๓.๒% จากเดิม ๒.๗-๓.๗% หลังจาก ภาพรวมเศรษฐกิจปี ๒๕๖๖ โตแค่ ๑.๙% รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า Quick Win เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ยกระดับเป็น Growth Engine หรือเครื่องยนต์ที่ ๕ ในการขับเคลื่อนจีดีพี นอกเหนือจากเครื่องยนต์ที่ ๔ การลงทุน การบริโภค การท่องเที่ยว และการส่งออกในทางกลับกัน ถ้าธุรกิจสังหาริมทรัพย์จะเติบโตได้ก็เพราะจีดีพี เติบโตเช่นเมื่อ ๑๐ ปีที่ผ่านมา จีดีพีโตร้อยละ ๗-๘ อสังหาโตถึงร้อยละ ๑๐-๑๕ ปีที่แล้วจีดีพีโต ร้อยละ ๑.๘ อสังหาไปต่อไม่ได้ เฉลี่ยจีดีพีโตร้อยละ ๑ อสังหาจะโตประมาณร้อยละ ๑.๕ หรือการฟรีวีซ่าก็มีส่วนให้อสังหาโตขึ้นเยอะ คนที่ได้ประโยชน์คือภาคอสังหาและแรงงานต่างด้าวดังนั้น ไม่ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเพื่อใคร ประเทศไทยก็ยังเหมือนเดิม.หมัดเหล็ก mudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม