Thursday, 19 December 2024

พัฒนาหรือก้าวขาไม่พ้น

การอภิปรายทั่วไป รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นำโดยพรรค ฝ่ายค้าน ก้าวไกล และ ประชาธิปัตย์ มีความใหม่และความเก่าอยู่ในบรรยากาศของการอภิปราย ก้าวไกล เป็นพรรคของคน รุ่นใหม่ ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ ส่วนพรรคร่วม รัฐบาลที่นำโดย เพื่อไทย ก็ยังมีกลิ่นเก่าผสมกลิ่นใหม่ สรุปแล้วการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในสภา ก็ยังไม่มีอะไรที่จะส่งสัญญาณไปถึงการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาของการเมืองไทยในอนาคตความคิดใหม่ๆที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกและการพัฒนาไปข้างหน้า กับ ความขัดแย้งที่ไร้สาระ จะเป็นทั้งตัวช่วย และตัวฉุดความเจริญของประเทศ ถึงเวลาที่จะต้องกลับมาพิจารณากันหรือยังว่า เราจะใช้ชีวิตแบบไร้สาระ ยึดเอาความสะใจ มากกว่าการยอมรับ ความจริง ต่อไป อย่างนี้ วิวาทะทาง การเมือง ไม่ใช่เครื่องมือในการพัฒนาประเทศ การสร้างภาพ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จจริง ไม่ทำให้การเมืองพัฒนาขึ้นแต่อย่างใดนอกจากเอามันส์ยกตัวอย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น ประเพณี เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างสองสถาบันการศึกษา แต่ยังมีคนเอาเรื่อง ประเพณีการอัญเชิญพระเกี้ยว ไปวิพากษ์วิจารณ์ เสียดสี เอาเรื่องของประเพณีมาเป็นข้ออ้างทะเลาะกัน จนกระทั่งเด็กๆต้องออกมาชี้แจง ถึงเจตนาและวัตถุประสงค์ในการจัดงานขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ ๒๐๒๔ เหล่านิสิตได้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรร สัญลักษณ์ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่างๆ มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ประกอบด้วย เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของคณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ เกียร์ตัวแทนของวิศวกรรมศาสตร์ สเลทฟิล์ม ตัวแทนของนิเทศศาสตร์ ดัมเบล ตัวแทนของวิทยาศาสตร์การกีฬา จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะสัญลักษณ์เหล่านี้อยู่รายล้อมพระเกี้ยวกำลังจะถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับจุฬาฯ ที่ได้พัฒนา วงการต่างๆในประเทศไทยและในระดับโลก ในทุกยุคทุกสมัยและได้กลับมาโอบอุ้มให้มหาวิทยาลัยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง “อะตอม” ที่สื่อถึงส่วนประกอบเล็กๆที่รวมตัวกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากร นำไปสู่การเป็นสถาบันหลักที่ยั่งยืนของประเทศ พวงดอกไม้พลาสติกที่ใช้แล้ว เป็นการนำวัตถุกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดดังนั้นวันนี้ ผู้ใหญ่ ในประเทศนี้ควรจะตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าใครคือปัญหา เด็กหรือผู้ใหญ่ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับประเทศในวันนี้ ใครคือปัญหา และถ้าเรายังจะวิพากษ์วิจารณ์การขับเคลื่อนประเทศ โดยไม่มีสติ ยังชอบเสพสื่อที่ไร้สาระ ยังชอบดู สส.พ่นน้ำลายในสภา ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง และการสร้างสรรค์ของคนอื่นก็จงอยู่อย่างติดหล่มจมปลักดักดานต่อไป.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม