“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้า ปชป.จวก คนปล่อยข่าวพรรคประชาธิปัตย์ จ่อซบร่วมรัฐบาล บี้ นายกฯ เศรษฐา พูดให้ชัด ใครไปคุยกับใคร ที่ไหน ชี้ หวังดิสเครดิต ลั่น ทำ ปชป.เสียหาย ยัน ตนไม่รู้เรื่องวันที่ ๖ เม.ย. ๒๕๖๗ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา ๑๐.๓๐ น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีก ๑ ปี พูดได้เต็มปากว่า เราเป็นสถาบันทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่คู่กับประเทศไทยอีกนาน ดังนั้นพรรคต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์โลกปัจจุบัน วันนี้สิ่งที่เห็นเมื่อเข้ามาในพรรคคือ ความสดใส อีกสิ่งคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือ พรรคตั้งศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกการสื่อสารถึงพี่น้องประชาชน เพราะวันนี้โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เราจึงต้องขับเคลื่อนตามโลก เมื่อถามว่า มาถึงวันนี้เริ่มมีเลือดเก่าไหลกลับพรรคบ้างหรือยัง นายเฉลิมชัย กล่าวว่า มีการพูดคุยอยู่ตลอด ขอให้รอการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคในปลายเดือน เมษายนนี้ จะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อเป็นการเปิดกว้างให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่ไม่เคยอยู่ประชาธิปัตย์ พร้อมๆ กับสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ว่า วันนี้ประชาธิปัตย์พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งการประชุมใหญ่ครั้งนี้เป็นการประชุมตามกฎหมาย ที่ทุกปีจะต้องมีการประชุมใหญ่อย่างน้อย ๑ ครั้ง หลักใหญ่คือ สิ่งที่เป็นข้อบังคับ อะไรที่กำกวม ที่ต้องมาตีความ เราก็แก้ไขให้ชัดเจน ปัญหาที่ท้วงติงกันว่า ไม่เหมาะสม เราก็พิจารณาแก้ไขให้เหมาะสมเมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. หลังการอภิปรายทั่วไป ซึ่งมีข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เรื่องปรับ ครม. ต้องไปถามนายกฯ เพราะอำนาจอยู่ที่ท่าน ส่วนเรื่องของประชาธิปัตย์ก็ต้องบอกมาให้ชัดเจนว่า ใครไปคุยกับใครที่ไหนอย่างไร ถ้าพูดไม่ชัดเจน ประชาธิปัตย์เสียหาย”ท่านก็ต้องบอกมาให้ชัดเจนว่า ใครไปคุยกับใครที่ไหน อย่างไร ถ้าพูดไม่ชัดเจน ประชาธิปัตย์เสียหาย แล้วประชาธิปัตย์เป็นองค์กร ความเป็นประชาธิปัตย์มันมากกว่าตำแหน่งของท่าน ดังนั้น ถ้ามันไม่ใช่ก็อย่าพูด เพราะการพูดในสิ่งที่ไม่ชัดเจนมันไม่ดีกับทุกฝ่าย ดังนั้นถ้าไม่ทำก็เป็นสิ่งที่ดี” นายเฉลิมชัย กล่าวเมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีสมาชิกพรรคอื่นไปพูดคุย แต่ไม่ได้บอก กก.บห.พรรคหรือไม่ นายเฉลิมชัย ตอบว่า เรื่องนี้ตนยืนยันว่าไม่ทราบ แต่โดยส่วนตัวของตนยังไม่เคยคุยอะไรกับใครทั้งหมด ประชาธิปัตย์เรามีข้อบังคับ มีหลักเกณฑ์ ตนพูดตลอดว่า นักการเมืองเวลาคุยกันมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ก็อย่าไปตีความเอาว่าเรามีการพูดคุย นี่คือเรื่องปกติจริงๆ แต่หลายๆ คนอาจจะไม่กล้าพูด แต่ผมว่านี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าพรรคอะไรเราเป็นนักการเมืองเราคุยกันได้ทั้งหมด แต่การคุยนั้นขอให้ไปดูที่เนื้อหาสาระสิว่าเราคุยอะไรกัน ตนยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้คุยเรื่องร่วมรัฐบาล”พรรคมีกระบวนการในการพิจารณามากกว่าการคุยกันแล้วมานั่งตกลงกัน เราต้องมาเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน ถึงจะพิจารณาได้ว่า จะทำอย่างไรต่อไป ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ใครคิดอะไรก็ทำ มันไม่ใช่ ผมมั่นใจว่า ข่าวนี้ไม่ใช่ประชาธิปัตย์เป็นคนปล่อย ส่วนใครจะปล่อยเพื่อดิสเครดิตหรือไม่นั้น ก็ต้องไปช่วยกันคิดดู ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่าอย่างนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าท่านยังก้าวไม่ข้าม ผมว่าประเทศไทยก็เดินหน้ายาก ลองไปคิดดู จังหวะเวลาที่ปล่อยข่าว ที่ข่าวออก จังหวะเวลาที่ออกมาพูดมีการรับลูกกัน ใครควรจะเป็นคนปล่อย แต่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์เป็นคนปล่อย ๑๐๐%” นายเฉลิมชัย กล่าว
