“รัฐบาลเพื่อใคร? หัวใจไม่ใช่ประชาชน”เป็นคำเปรียบเปรยที่ “ก้าวไกล” พรรคฝ่ายค้านได้นำเสนอต่อสังคม เพื่อให้เห็นภาพว่ารัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ที่กำลังบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้มีพฤติกรรมดังเช่นที่ว่านี้เพราะมันทำให้เข้าใจถึงสภาพความเป็นไป ที่ให้คำตอบอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มุ่งที่จะบริหารประเทศอย่างที่ควรจะเป็นคือเพื่อประโยชน์ของประชาชนแต่มุ่งเพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่งความจริงคำเปรียบเปรยนี้สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่ต่างกัน เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็ต้องทำหน้าที่เพื่อชาติและประชาชนไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่งก็ดีครับเป็นเหมือนว่าทำให้นักการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม หน้าที่สำคัญคือเพื่อประชาชนไม่ใช่คนหนึ่งคนใดแล้วทำไมฝ่ายค้านจึงนำประโยคนี้มาเป็นไฮไลต์ ก่อนที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แบบไม่ลงมติตาม ม.๑๕๒ก็เพราะเขาคิดว่ารัฐบาลทำเพื่อคนใดคนหนึ่งและเขาคนนั้นคือใครคงไม่ต้องบอกก็เป็นเรื่องแทรกอันไม่ต่างกับอีกเรื่องหนึ่ง คือข่าวทำนองว่าประชาธิปัตย์ต้องการเข้าร่วมรัฐบาล หลังการอภิปรายจบลงนายกรัฐมนตรีนำเรื่องนี้ไปพูดในสภา และได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่พูดกับคนอื่นไม่ใช่ตัวนายกรัฐมนตรีโดยตรง และไม่ได้บอกว่าพรรคการเมืองนั้นคือพรรคไหนแต่ยํ้าว่า ๓๑๔ เสียงที่สนับสนุนรัฐบาลนั้นพอแล้ว หมายความรัฐบาลไม่ต้องการหรือคิดจะเอาพรรคการเมืองมาร่วม เนื่องจากเสียงหนุนแน่นปึ้กแล้วพูดเองตอบเองแล้วจบ…แต่ที่ร้อนกันก็คือประชาธิปัตย์ เพราะมันทำให้พรรคเกิดความเสียหาย จึงมีการปฏิเสธว่าไม่จริง เป็นไปไม่ได้ก่อนจะถึงวันอภิปรายจึงมีความเคลื่อนไหว เพื่อดูว่าอะไรจริงอะไรเท็จ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากหลายคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้แต่น่าจะเป็นการดิสเครดิต ทำให้ประชาธิปัตย์วางตัวไม่ถนัดในการทำหน้าที่ หรือบางส่วนมองว่าเป็นการโดดเดี่ยว “ก้าวไกล”ก็ต้องมาดูของจริงกัน การอภิปรายทั้ง ๒ วันคือ ๓-๔ เม.ย. ก้าวไกลนั้นแสดงบทบาทเต็มที่อยู่แล้วดังที่ปรากฏ แต่เนื่องจากยังด้อยประสบการณ์ ลีลาและท่วงทำนอง จึงยังไม่ชวนให้ตื่นเต้นเร้าใจ แต่ข้อมูลต่างๆนั้นลึกและตรงเป้า“ประชาธิปัตย์” ในฐานะรุ่นเก๋าประสบการณ์เหลือล้น จนเจ้าตำรับฝ่ายค้านที่โค่นรัฐบาลมาหลายชุดแล้วแค่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เพียงคนเดียว ก็ทำให้รัฐบาลสะท้านไปถึงทรวง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีโดนไปหลายดอก และยังตีอ้อมไปถึงผู้มีบารมีนอกรัฐบาลอีกด้วยเรียกว่าสมฉายาจริงๆส่วน สส.คนอื่นๆก็ได้แสดงบทบาทความเป็นฝ่ายค้านได้อย่างสมศักดิ์ศรี นักวิชาการบางคนให้คะแนนฝ่ายค้าน ๙ เต็ม ๑๐ก็คงเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ข่าวประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลนั้น…ไม่น่าจะจริงแต่เป็นเกมสุมไฟเพื่อลดความแรงของฝ่ายค้านมากกว่า!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
