คิดจะเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลอย่างปลอดภัย นอกจากความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังต้องให้ปลอดภัยต่อเงินในกระเป๋าของท่านอีกด้วย เพราะสำหรับ “เรื่องเล็กๆ” ในสายตาของใครหลายคนนั้น บอกได้เลยว่าถ้าถูกจับ ค่าปรับ “ไม่เล็ก” กันเลยทีเดียว อาทิ ใบขับขี่ ถือว่าเป็นเอกสารสำคัญที่กรมการขนส่งทางบก ออกให้กับบุคคลเพื่อแสดงว่ามีคุณสมบัติสามารถขับขี่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนได้ การขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือยานพาหนะอื่นๆ โดยไม่มีใบขับขี่ หรือมี แต่ไม่สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อถูกเรียกตรวจ มีความผิดโทษปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคนที่ใบขับขี่หมดอายุ หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่ ปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท ส่วนผู้ที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นภาพที่เห็นจนชินตา รู้หรือไม่ว่าเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตมากขึ้นกว่า ๒๐ เท่า เพราะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง และทำให้ต้องละสายตาออกจากเส้นทางเฉลี่ย ๔.๖ วินาที หากใช้ความเร็วรถที่ ๘๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง จะมีผลเทียบเท่ากับการปิดตาขับรถถึง ๑๐๐ เมตร โทษปรับสูงสุดสำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ ขยับจากไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท เป็น ๔,๐๐๐ บาท และถูกตัดแต้มใบขับขี่ ๑ คะแนน เทศกาลกลับบ้านแบบนี้ แน่นอนว่าลูกเล็กเด็กแดงต้องเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กฎหมายเรื่อง “การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ.๒๕๖๖” หรือกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) สำหรับเด็กอายุไม่เกิน ๖ ปี มีผลบังคับใช้แล้ว หากละเลย มีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท และกฎหมายยังระบุให้ใช้คาร์ซีท ๒ แบบ ได้แก่ ๑. ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถและที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ ๒. ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง (Booster Seat) โดยที่นั่งทั้ง ๒ แบบข้างต้น ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอีกด้วยส่วนสายซิ่งต้องยิ่งระวัง เพราะการแข่งรถในทางสาธารณะ รวมกลุ่มกันชักชวนให้แข่งรถตั้งแต่ ๕ คันขึ้นไป, ดัดแปลงสภาพรถ, มีการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อแข่งรถ, มีการแสดงออกถึงพฤติกรรมให้เห็นว่ากระทำการแข่งรถ ถือว่าผู้ขับขี่มีโทษ ๒ ใน ๓ ฐานแข่งรถในทาง มีโทษปรับตั้งแต่ ๕,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ในขณะที่ผู้ประกาศหรือผู้ชักชวนให้เกิดการแข่งรถในทางสาธารณะ มีโทษปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษนี้ยังครอบคลุมไปถึงร้านที่ช่วยแต่งรถให้ มีโทษ ๒ ใน ๓ ฐานแข่งรถในทาง มีโทษปรับตั้งแต่ ๕,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ที่ต้องขีดเส้นใต้เน้นๆ เพราะมีการเพิ่มโทษปรับจากเดิมถึง ๔ เท่า ตามประกาศใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.๒๕๖๕ กำหนดให้ในหลายกระทงความผิด ได้แก่● ขับรถเร็วเกินกำหนด เพิ่มจาก ๑,๐๐๐ เป็น ๔,๐๐๐ บาท● ขับรถย้อนศร เพิ่มจาก ๕๐๐ เป็น ๒,๐๐๐ บาท● ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง โทษปรับสูงสุดขยับจากไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท เป็น ๔,๐๐๐ บาท● ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพิ่มจาก ๕๐๐ เป็น ๒,๐๐๐ บาท● ไม่หยุดรถให้คนข้ามตรงทางม้าลาย โทษปรับสูงสุดขยับจากไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท เป็น ๔,๐๐๐ บาท● ไม่สวมหมวกกันน็อก โทษปรับสูงสุดขยับจากไม่เกิน ๕๐๐ บาท เป็น ๒,๐๐๐ บาท ● ดื่มแล้วขับครั้งแรก จำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือ ปรับ ๕,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท ถูกพักใบขับขี่ ไม่น้อยกว่า ๖ เดือน หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่● ทำผิดซ้ำข้อหาเดิม ดื่มแล้วขับภายใน ๒ ปี จำคุกไม่เกิน ๒ ปี ปรับ ๕๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ บาท ถูกพักใช้ใบขับขี่ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่● ดื่มแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ จำคุกตั้งแต่ ๑-๕ ปี และปรับตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ บาท และถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือยกเลิกใบอนุญาตขับขี่● ดื่มแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส จำคุกตั้งแต่ ๒-๖ ปี และปรับตั้งแต่ ๔๐,๐๐๐-๑๒๐,๐๐๐ บาท และถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือยกเลิกใบอนุญาตขับขี่● ดื่มแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จำคุกตั้งแต่ ๓-๑๐ ปี ปรับตั้งแต่ ๖๐,๐๐๐-๒๐๐,๐๐๐ บาท และยกเลิกใบอนุญาตขับขี่ทันที● การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ถ้าเกิน ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ถือว่าเมาสุรา● ยกเว้นผู้ขับขี่ใน ๔ กรณีต่อไปนี้ ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน ๒๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเมาสุรา คือ ๑.ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์, ๒.ผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่ชั่วคราว (ใบขับขี่อนุญาตแบบ ๒ ปี), ๓.ผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่ประเภทอื่น ซึ่งใช้แทนกันไม่ได้ และ ๔.ผู้ขับขี่ที่ถูกยกเลิกใบขับขี่ หรืออยู่ระหว่างการพักใช้งานใบขับขี่● สำหรับกรณีที่ไม่เป่าแอลกอฮอล์ จะถือว่า “ดื่มแล้วขับ” ทันที ระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับ ๕,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า ๖ เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ (มาตรา ๑๖๐ ตรี)● นอกจากจะต้องเสียค่าปรับ ขึ้นศาล และเสียประวัติแล้ว บางกรณีจะโดนคุมประพฤติ และต้องบำเพ็ญประโยชน์ พร้อมเครื่องติดตามตัวตลอด ๒๔ ชม. และอาจมีคำสั่งห้ามออกจากที่พักตั้งแต่ ๒๒.๐๐-๐๔.๐๐ น. โดยระยะเวลาคาดโทษนั้น จะขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาคดี เพื่อลดความเสี่ยงที่จะก่อความผิดซ้ำ และเพื่อให้ทุกคนมีแนวทางการขับขี่อย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข อย่าลืม! ดาวน์โหลดคู่มือ #Saveสมองจากอุบัติเหตุการขับขี่ โหลดฟรีและอ่านเวอร์ชันออนไลน์ได้ คลิกเลยกดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่ :Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.Line : @thaihealththailandTiktok: @thaihealthYoutube: SocialMarketingTHWebsite : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม#PRNews
Related posts