Tuesday, 19 November 2024

วิเคราะห์การเมือง : การตลาดโบราณบี้เด็ก

จังหวะ “นำร่อง” สงกรานต์ ๒๑ วัน ซอฟต์พาวเวอร์งงๆของรัฐบาลเพื่อไทยกับภาพที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถอดเสื้อ เล่นน้ำกับหลานๆอย่างสนุกสนาน ภายในคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้าอีกมุมก็เป็นการแก้ลำ เคลียร์กระแสแบบที่โดนการ์ตูนนิสต์การเมืองล้ออำ ด้วยภาพเหมือน “นายใหญ่” สนุกกับการบังคับเสือ สิงห์ กระทิง แรด เดินสายกระชับอำนาจการเมือง โดยไม่หันมามองหลานปู่ หลานตาที่ยืนหน้าละห้อยโดนปู่ตาหลอก ไหนบอกจะกลับบ้านมาเล่นกับลูกหลานเรื่องของเรื่อง มันคือความตั้งใจ “นายใหญ่” โชว์อีเวนต์ส่วนตั๊วส่วนตัวในครอบครัว มุมลับในรั้วบ้านจันทร์ส่องหล้า ออกมาสู่สายตาคนภายนอก ผ่านกระดานโซเชียลฯของ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มุมเดียวกับที่ “ทักษิณ” นั่งสวมเฝือกคอ ใส่สายพยุงแขน นั่งทอดอารมณ์เหม่อลอยอยู่ใต้ต้นไม้ ในวันแรกที่ได้กลับคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้าในรอบ ๑๗ ปี“ล่อเป้า” ยั่วสหบาทากันตั้งแต่ช็อตแรกที่เช็กเอาต์จากชั้น ๑๔โดยไม่สนทีมไอโอต้องระดม “สุน้อยหน่า” บัญชีอวตารมาอวยกันไม่ทัน มองข้ามธรรมชาติยุคดิจิทัล การสื่อสารสองทาง มีทั้งบวกและลบ ท่ามกลางบรรยากาศย้อนแย้งธรรมชาติสถานะ “นายใหญ่” ล้อแรงเสียดทานบนเกมอำนาจ “ดีลลังกาวี”ยั่วอารมณ์สลิ่ม กปปส.กัดติดไม่ปล่อย ม็อบพันธมิตรเสื้อเหลืองยังกัดฟันปลอมคำนึงแค้นในอดีต แม้แต่คนเสื้อแดงยังค้างคาใจที่ถูกหลอกเอาชีวิตเลือดเนื้อเซ่นเกมชิงอำนาจ ไม่ต้องพูดถึงด้อมส้มที่ไม่รู้จัก ไม่อินกับชื่อ “ทักษิณ”ตามรูปการณ์แบบที่เสียงเชียร์ไม่สามารถกลบเสียงด่า “ป่วยทิพย์” ของนักโทษวีไอพี ช็อตเด็ดในคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า “ล่อเป้า” กระตุกขบวนการหมั่นไส้ในโซเชียลฯจับโป๊ะ “นายใหญ่” เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องใส่เฝือกสวมปลอกคอ ไม่ได้แสดงอาการเอ็นเปื่อยยุ่ยเลยสักนิด“ทักษิณ” ติดเครื่อง ใส่เกียร์ห้า กระทืบคันเร่งไม่แตะเบรกเพิ่มโจทย์หิน ทีมไอโอปั่นคอมเมนต์เชียร์ ระดม “สุน้อยหน่า” อวยกันไม่ทันจับทาง “เถ้าแก่ใหญ่” ยังติดอยู่กับสถานะ “โคตรเซียนการตลาด” ด้วยความมั่นอกมั่นใจ ถนัดกับเกมชิงพื้นที่ข่าวแบบโบราณ บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า “ข่าวโดนด่าลงฟรี ข่าวดีต้องเสียตังค์โฆษณา”ตามฟอร์ม “นายใหญ่” ต้องโดดเด่น เลี้ยงกระแสตลอดเวลาอัดการตลาดโบราณ บี้กับการตลาดดิจิทัล ไฟต์บังคับยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องลุยถั่วชิงกระแส แย่งพื้นที่ข่าวกับทีมเด็กรุ่นใหม่ ค่ายก้าวไกลที่ครองส่วนแบ่งการตลาดในพื้นที่โซเชียลฯเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แต่จะได้ผลเพิ่มแต้มบวกหรือตัดคะแนนเป็นลบนั่นว่ากันอีกเรื่องกับการเมือง “ท่ายาก” สถานการณ์ทีม “นายใหญ่” ต้อง “ทวนกระแส” สู้กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ พรรคเพื่อไทยต้อง“เซ็ตอัป” สู้กับ “ออร์แกนิก” ของทีมไอโอของกองทัพก้าวไกลฟอร์มเขี้ยวของเด็กเชี่ยวเชิงดิจิทัลปั่นกระแส แต่นั่นก็ปฏิเสธไม่ได้ คอมเมนต์เชียร์ ยอดไลค์ ส่วนใหญ่มาจากบัญชีแท้ มีตัวตนจริงอ้างอิงตามผลโพลสำนักมาตรฐาน ตัวเลขดีดยิ่งกว่า “ยาบ้า ๕ เม็ด พรรคก้าวไกลไม่ได้ใช้บริการ “สุน้อยหน่า” โปรไฟล์อวตาร แบบที่ “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ยอดฟอลโลเต็มเหยียดหลักแสนหลักล้านในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งทวิต X ติ๊กต่อก เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ฯลฯโพสต์แต่ละทีคนไลค์เป็นหมื่น คอมเมนต์ชื่นชมกันสนั่นเพจของพรรคก้าวไกล มียอดผู้ติดตามสูงสุด สอดคล้องกับยอดเงินบริจาคภาษีที่กองทัพเด็กรุ่นใหม่ครองแชมป์ต่อเนื่องติดต่อมาหลายปีตามท้องเรื่อง ความมั่นใจที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง เสี่ยงเจ๊งไม่เป็นท่า “ทักษิณ” ผู้เชี่ยวกรากกับสนามของ “นักเลือกตั้งอาชีพ” คงไม่เผลอโกหกตัวเอง หลอกตัวเองแบบพวก “ลากตั้ง” เป็นอาชีพอารมณ์มนุษย์ถ้ำถือขวานหินสู้สงครามไซเบอร์ แบบที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ตัวตึง ประธานกรรมาธิการการเมืองวุฒิสภา ตั้งท่าทิ้งทวนก่อนหมดวาระ สว.มรดก คสช. ชงรื้อกฎหมาย ออกแบบกติกาเลือกตั้งใหม่ เพิ่มเงี่ยงปมในการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย หวังสกัด “ด้อมส้ม” ไม่ให้ได้เปรียบในเกมถนัดสะท้อนวิสัยทัศน์พวกฝืนธรรมชาติ หลงยุคไปไกลกว่า “การตลาดโบราณ”ยังป้วนเปี้ยนๆ วนไปวนมา ไม่พ้นอยู่แค่ในตลาดสด.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม