ผ่านไป ๖ เดือนแล้วที่อิสราเอลทำสงครามกวาดล้างนักรบฮามาส เพื่อตอบโต้ที่โดนโจมตีแบบไม่คาดคิดเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า ๓๔,๐๐๐ ศพ มากกว่า ๗๐% ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็กกองทัพอิสราเอลยังเดินหน้าสังหารผู้นำฮามาส ทำลายเครือข่ายอุโมงค์ เส้นทางลำเลียงขนส่งของกลุ่มฮามาสที่กระจายอยู่ใต้ดินฉนวนกาซา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นเครือข่ายที่มีความซับซ้อน และไม่คิดว่าเราจะได้เห็นการทำลายอุโมงค์มากนักในสงครามครั้งนี้ทางการอิสราเอลระบุว่า ขณะนี้กลุ่มฮามาสยังคงจับตัวประกันราว ๑๓๐ คนไว้ในฉนวนกาซา หลังสงครามดำเนินมานานถึง ๖ เดือนเต็มแล้วเป็นเวลา ๖ เดือนแล้ว นับตั้งแต่นักรบฮามาสบุกทะลวงเข้าสู่อิสราเอล ก่อเหตุโจมตีแบบไม่คาดคิด เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ปีที่แล้ว คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ ๑,๒๐๐ ศพ และจับตัวประกันได้กว่า ๒๐๐ คน ทำให้กองทัพอิสราเอลประกาศว่าจะ “บดขยี้และทำลายล้างกลุ่มฮามาส” ให้สิ้นซากเพื่อไม่ให้เป็นภัยคุกคามใดๆ อีกต่อไป และนำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้านในสงครามอิสราเอลบดขยี้ฮามาสอย่างโหดร้ายที่ตามมา กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า ทำให้มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารอย่างน้อย ๓๓,๐๐๐ ศพ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซาถูกถล่มราบคาบกองทัพอิสราเอลระบุว่า ได้เด็ดหัวผู้นำฮามาส และสังหารนักรบฮามาสไปหลายพันคน นอกจากนี้ยังทำลายเครือข่ายอุโมงค์เส้นทางขนส่งลำเลียงขนาดใหญ่ของฮามาสจำนวนมากบริเวณใต้ดินฉนวนกาซา ซึ่งกลุ่มฮามาสเคยใช้เป็นเส้นทางในการโจมตีอิสราเอล ผู้นำกลุ่มฮามาสถูกสังหารไปกี่คนกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล หรือกองทัพอิสราเอล เคยระบุว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม คาดว่ากลุ่มฮามาสจะมีนักรบในฉนวนกาซา ประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน และแม้ว่าแกนนำอาวุโสทางการเมืองของกลุ่มฮามาสจำนวนมาก อาทิ อิสมาอิล ฮานีเยห์ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำโดยรวมของกลุ่มนี้ จะอาศัยอยู่ต่างประเทศ แต่เชื่อว่าโครงสร้างผู้นำทางทหารส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซาถ้อยแถลงล่าสุดของกองทัพอิสราเอลระบุว่า จนถึงตอนนี้ได้สังหารนักรบฮามาสไปประมาณ ๑๓,๐๐๐ คนนับตั้งแต่เริ่มสงคราม แม้ว่าจะไม่ได้บอกว่าพวกเขาคำนวณตัวเลขนั้นอย่างไร เนื่องจากนักรบฮามาสอยู่ปะปนกับพลเรือนปาเลสไตน์ทั่วไป ขณะเดียวกันอิสราเอลยังเผยแพร่รายชื่อผู้นำกลุ่มฮามาสแต่ละคนที่ถูกสังหารด้วย ตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยบอกว่ามีระดับแกนนำถูกสังหารทั้งหมด ๑๑๓ คน ซึ่งส่วนใหญ่มีรายงานผู้เสียชีวิตในช่วง ๓ เดือนแรกของสงคราม เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว แต่กองทัพอิสราเอลไม่ได้เผยรายชื่อผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสที่ถูกสังหารในฉนวนกาซา ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม กองทัพอิสราเอล ระบุว่าได้สังหารมาร์วาน อิสซา รองผู้บัญชาการกองทหารของกลุ่มฮามาส ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำฮามาส ผู้เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของอิสราเอล และเป็นผู้นำอาวุโสที่สุดของกลุ่มฮามาส ที่ถูกสังหารนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น ทางด้านสหรัฐฯ ระบุว่า เชื่อว่านายอิสซาถูกสังหารแล้ว แต่กลุ่มฮามาสยังไม่ออกมายืนยันกองทัพอิสราเอลเผยแพร่รายชื่อของบุคคลที่ระบุว่า เป็นผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสที่ถูกสังหาร แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มหรือไม่ หนึ่งในผู้ที่มีชื่ออยู่ในหมวดหมู่นี้คือ มุสตาฟา ทูรายา ซึ่งทำงานเป็นนักข่าวอิสระในฉนวนกาซาตอนใต้ โดยรถของเขาถูกชนเมื่อเดือนมกราคม นอกจากนี้ยังพบชื่อที่ซ้ำกันในรายการ นอกจากนี้ ซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาส เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในย่านชานเมืองทางใต้ของเบรุต ดาฮีเยห์ เมื่อเดือนมกราคม กองทัพอิสราเอลระบุว่า อัล-อารูรี ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้นำคนสำคัญของกลุ่มฮามาสอีกหลายคนหลายคนในฉนวนกาซา รวมถึงยาห์ยา ซินวาร์ ยังมีชีวิตอยู่ไมราฟ ซอนสเซน นักวิเคราะห์อาวุโสด้านกิจการอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ของกลุ่มวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลไม่สามารถเข้าถึงผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสได้ ทั้งผู้นำในเชิงสัญลักษณ์และคนที่เป็นผู้นำจริงๆ เหลือตัวประกันถูกจับอยู่ในฉนวนกาซากี่คนเว็บไซต์ข่าว BBC ได้สำรวจตรวจสอบตัวเลขอย่างเป็นทางการของอิสราเอล มีคนถูกจับเป็นตัวประกัน ๒๕๓ คนในวันที่ ๗ ตุลาคม -ตัวประกัน ๑๐๙ คนได้รับการปล่อยตัว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนักโทษหรือในข้อตกลงที่แยกจากกัน-ตัวประกัน ๓ คนได้รับการช่วยเหลือโดยตรงจากกองทัพอิสราเอลในการปฏิบัติการทางทหาร ขณะเดียวกัน พบศพตัวประกัน ๑๒ ศพ ในจำนวนนี้เป็น ๓ ศพที่กองทัพอิสราเอลยอมรับว่าสังหารพลาดเป้าในปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล และมีการยืนยันว่า ตัวประกันอายุน้อยที่สุดคือ ๑๘ ปี และอายุมากที่สุดคือ ๘๕ ปี-จากตัวประกันที่เหลือ ๑๒๙ คน อิสราเอลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๓๔ คน-ฮามาสกล่าวว่า จำนวนตัวประกันที่เสียชีวิตมีมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลเอง-ตัวประกันที่อายุน้อยที่สุด ๒ คนที่ถูกจับในการโจมตีของกลุ่มฮามาสคือแอเรียล และเคฟีร์ ซึ่งมีอายุ ๔ ปีและ ๙ เดือนตามลำดับในขณะที่พวกเขาถูกลักพาตัว มีรายงานการเสียชีวิตของพวกเขาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากกองทัพอิสราเอล -ทางการอิสราเอลระบุว่า ขณะนี้กลุ่มฮามาสยังคงจับตัวประกันราว ๑๓๐ คนไว้ในฉนวนกาซา หลังสงครามดำเนินมานานถึง ๖ เดือนเต็มแล้ว เครือข่ายอุโมงค์ฮามาสถูกทำลายไปมากน้อยเพียงใดก่อนหน้านี้ กลุ่มฮามาสเคยกล่าวไว้ว่า เครือข่ายอุโมงค์ของฮามาสทอดยาวเป็นระยะทาง ๕๐๐ กิโลเมตร และอิสราเอลประกาศว่าจะทำลายเครือข่ายอุโมงค์ที่กว้างขวางของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งใช้เพื่อเคลื่อนย้ายสเบียง อาวุธ และผู้คน โดยบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นที่จะกำจัดกลุ่มฮามาสทางด้านโจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ฉนวนกาซาถูกแบ่งเป็นชั้นหนึ่งสำหรับพลเรือน และอีกชั้นหนึ่งสำหรับฮามาส และกองทัพกำลังพยายามไปถึงชั้นที่สองที่ฮามาสสร้างขึ้น จนถึงตอนนี้สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้ายในฉนวนกาซาไปจำนวนมากเมื่อปลายปีที่แล้วกองทัพอิสราเอล ได้แสดงหลักฐานอุโมงค์ฮามาสที่พวกเขาค้นพบ อย่างเครือข่ายอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในเมืองกาซา ซึ่งระบุว่าถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของกองกำลังฮามาสโดยเขาวงกตใต้ฉนวนกาซาประกอบด้วยหลายส่วน รวมถึงเส้นทางอุโมงค์และห้องขนาดต่างๆ ตลอดจนจุดที่อุโมงค์บรรจบกับพื้นผิว ซึ่งเรียกว่าปล่องอุโมงค์ด็อกเตอร์ดาฟเน ริชมอนด์-บารัค ผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามใต้ดิน แห่งมหาวิทยาลัยไรช์แมน ในอิสราเอลกล่าวว่า การวางปล่องอุโมงค์ให้เท่ากับอุโมงค์นั้นมีความซับซ้อน และไม่คิดว่าเราจะได้เห็นการทำลายอุโมงค์มากนักในสงครามครั้งนี้ ความสูญเสียจากการทำสงครามของอิสราเอลเป้าหมายการทำสงครามของอิสราเอลสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า ๓๓,๐๐๐ ศพ โดยข้อมูลประชากรล่าสุดของกระทรวงตั้งแต่วันที่ ๕ เมษายน ระบุว่ามากกว่า ๗๐% ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็กนอกจากนี้ยังมีชาวปาเลสไตน์จำนวนมากต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นและไร้ที่อยู่อาศัย โดยองค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้พลัดถิ่นในประเทศแล้วกว่า ๑.๗ ล้านคน พื้นที่อยู่อาศัยถูกทำลาย ถนนที่พลุกพล่านกลายเป็นซากปรักหักพัง พื้นที่เกษตรกรรม โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยถูกทำลาย จากการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมระบุว่า อาคารในกาซามากกว่า ๕๖% ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม โดยตลอด ๖ เดือนนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ยังคงไม่ชัดเจนว่าอิสราเอลบรรลุเป้าหมายในสงครามหรือไม่.
