พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๗ว่า ตนขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นหรืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖๑๘,๗๙๕,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างเหมาบริการนักการภารโรง จำนวน ๑๓,๗๕๑ อัตรา ระยะเวลา ๕ เดือน เพื่อปฏิบัติงานในเดือน พ.ค.-กันยายน๒๕๖๗ ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอเพื่อให้มีนักการภารโรงครบทุกโรงเรียน ส่วนในปี ๒๕๖๘ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณปี ๒๕๖๘ จำนวน ๒๕,๓๗๐ อัตรา รวมเป็นเงินกว่า ๒,๗๓๙,๙๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป“สพฐ.จะแจ้งบัญชีจัดสรรนักการภารโรงไปยังเขตพื้นที่การศึกษา ก่อนจัดสรรต่อไปให้โรงเรียน คาดว่าโรงเรียนจะสามารถสรรหาและทำสัญญาจ้างได้ภายใน ๓๐ เมษายนนี้ ซึ่งผมคิดว่าผู้ที่จะเข้ามาเป็นนักการภารโรงควรยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและหากผ่านการเรียนหลักสูตรรักษาดินแดน (รด.) และมีความรู้ด้านช่างมาด้วยก็จะดี เพราะคนที่จะเข้ามาเป็นภารโรงเป็นเหมือนแก้วสารพัดนึกของโรงเรียนและควรมีการประเมินผลการปฏิบัติงานในทุกสิ้นเดือน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะจ้างต่อในปี ๒๕๖๘ หรือไม่ด้วย” รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการกล่าวพล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวอีกว่า นอกจากนี้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และ สพฐ.ได้รายงานถึงการยกระดับโครงการประเมินผลนักเรียนระหว่างประเทศ หรือ PISA ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก สพฐ.ยังรายงานผลการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในโรงเรียน และการดำเนินการพัฒนาของนักเรียนชั้น ป.๔-๖ และ ม.๑-ม.๖ สังกัด สพฐ. จำนวน ๕๑๑,๗๑๑คน พบว่า นักเรียนต้องการให้โรงเรียนพัฒนาปรับปรุงในเรื่องต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนอย่างมีความสุขและความปลอดภัยในโรงเรียน อาทิ การเข้าแถวหน้า เสาธง ค่ายธรรมะ เป็นต้น ส่วนเรื่องห้องน้ำโรงเรียน ต้องการให้มีการปรับปรุงให้พร้อมใช้งาน จึงได้มอบให้ สพฐ.ปรับปรุงห้องน้ำให้เพียงพอและพร้อมใช้งาน.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
