“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.ปชป.ตอกย้ำ แหล่งเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” คือ “กู้ ธ.ก.ส.มาแจก!” DNA เดียวกับจำนำข้าว เตือน อย่าทำผิดกฎหมาย ชี้ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภค อาจผิดวัตถุประสงค์ กู้เงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรวันที่ ๑๑ เม.ย. ๒๕๖๗ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเรื่องแหล่งเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ที่มาจาก ๓ ทาง คือ งบฯ เหลือจ่าย ๖๗ งบฯ ๖๘ และเงิน ธ.ก.ส. ตาม ม.๒๘ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ ว่า กรณีการใช้เงิน จาก ธ.ก.ส.โดยให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปก่อน แล้วรัฐบาลค่อยใช้คืนทีหลัง ตาม ม.๒๘ ก็คือการ “กู้ ธ.ก.ส.มาแจก” นั่นเอง ก๊อบปี้วิธีการของโครงการจำนำข้าวมาทั้งดุ้น พูดง่ายๆ คือ มาจาก DNA เดียวกัน เพราะจำนำข้าวก็คือให้ ธ.ก.ส.สำรองเงินไปรับจำนำข้าวจากชาวนาก่อน แล้วรัฐบาลค่อยใช้คืนทีหลัง ซึ่งขาดทุนตั้งแต่นับหนึ่งเพราะราคาข้าวในตลาดตันละไม่ถึงหมื่นแต่ให้ไปรับจำนำตันละหมื่นห้า ทุกๆ ตันจึงขาดทุนสะสมไปเรื่อยๆ จนทำให้ขาดทุนรวมไป ๖-๗๐๐,๐๐๐ ล้าน และจนวันนี้ยังใช้หนี้ไม่หมด ยังเหลือหนี้ค้าง ธ.ก.ส.อยู่อีก ๒๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ซึ่งกรณี ดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะให้ ธ.ก.ส.สำรองแจกไปก่อน จึงมาจาก DNA เดียวกันโดยรัฐบาลจะต้องมีภาระหนี้ กับเฉพาะ ธ.ก.ส.เพิ่มอีกตามที่ รัฐบาลแถลง ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท รวมกับหนี้เก่าจำนำข้าว อีก ๒๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ก็จะทำให้รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. เฉพาะ ๒ โครงการ ทั้งที่ยังคงค้างอยู่และจะสร้างใหม่ รวมประมาณ ๔ แสนล้านบาท ซึ่งจนวันนี้ รัฐบาลก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีแผนชำระหนี้เฉพาะหนี้ ธ.ก.ส.ที่จะกู้มาแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างไร และยังอาจมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาอีกว่า แม้เงิน ธ.ก.ส.สามารถเอามาดูแลเกษตรกรได้ แต่ถ้าถึงขั้นจะเอามาแจกตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ด้วยวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภค สามารถทำได้หรือไม่ ดูให้รอบคอบ อย่าไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายอย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ เพราะหาเสียงไว้และต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย
