งาน มหาสงกรานต์ ๒๕๖๗ World Water Festival เริ่มแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ “เชียงใหม่” ๑ ใน ๓ จุดหมายปลายทางการเล่น นํ้าสงกรานต์ของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ชลบุรี–เชียงใหม่–กทม.) กลับจมอยู่ในฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ คนไม่กล้าออกจากบ้าน ทำให้ “งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่” ที่เริ่มมาตั้งแต่ ๑ เมษายน หงอยเหงาไปถนัดตาเลยทีเดียว ฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ปกคลุมเชียงใหม่หนาทึบจนมองไม่เห็นดอยสุเทพมาหลายวันแล้ว วันอังคารที่ ๙ เมษายน ฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ในเมืองเชียงใหม่ก็ยังครองอันดับ ๑ ของโลก ในฐานะ เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ความหนาแน่นของฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ อยู่ในระดับสีแดงที่ ๑๙๔ AQI ทำให้ คุณนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ต้องประกาศให้ทุกหน่วยงานรัฐและเอกชนทำงานที่บ้าน (work from home) และให้ประชาชนงดทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลา ๓ วัน ตั้งแต่ ๙–๑๑ เมษายนถ้าวันนี้ฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ยังไม่จางลง เห็นทีคงต้อง work from home ต่อไปอีกเนื้อหาในประกาศของ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ นอกจากสั่งให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งทำงานที่บ้านแล้ว ยังขอความร่วมมือเอกชน สถานบริการ ร้านอาหาร พิจารณาให้บริการ “ห้องปรับอากาศ” เป็นอันดับแรก เพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ ขอความร่วมมือบริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือทำงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และ ขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยว ปรับลดกิจกรรมนอกบ้าน ในช่วงเวลาที่ฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ เกินมาตรฐาน หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว “สวมหน้ากากอนามัย” ป้องกันฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ทุกครั้งถ้า วันหยุดยาวสงกรานต์ ๑๒–๑๖ เมษายน ฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ยังปกคลุมเชียงใหม่ ผมคิดว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวอาจจะต้อง เปลี่ยนสถานที่เล่นสงกรานต์ จาก “สงกรานต์กลางแจ้ง” เป็น “สงกรานต์ในห้องแอร์” ก็เป็นทางออกที่ดีนะครับ เพื่อป้องกันฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ที่เป็นภัยคุกคามต่อร่างกายและความสนุกสนานในวันสงกรานต์ผมคิดเล่นๆแต่ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่ เชียงใหม่ อาจจะต้อง “จัดงานสงกรานต์ในห้องแอร์” เพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้ว เพราะดูจากสถานการณ์ฝุ่นพิษแล้ว ผมคิดว่าช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ฝุ่นพิษไม่ลดลงแน่นอน เมื่อวันอาทิตย์จังหวัดเชียงใหม่เพิ่งประกาศให้ ๕ อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติจากไฟป่า ประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาก็พบจุดความร้อนสูงถึง ๙,๐๐๐ จุด ในวันอาทิตย์ เช้าวันจันทร์ก็ยังพบอยู่ ๗,๐๐๐ จุด ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ก็ยอมรับว่า ต้นเดือนเมษายนมามีการเผาไม่หยุด เฉพาะวันที่ ๒–๓ เมษายน พบจุดความร้อนในเชียงใหม่พุ่งขึ้นแตะ ๕๖๑–๕๖๕ จุดต่อวัน การดับไฟก็ยาก เพราะเป็นพื้นที่สูงชัน เทศกาลสงกรานต์ จึงต้องออกประกาศให้หน่วยงานรัฐและเอกชนทำงานที่บ้าน ให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง งดใช้สวนสาธารณะ ๓ วันนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ก็โพสต์หลังการประชุม คณะรัฐมนตรีวันอังคารว่า ได้ออก มาตรการอีก ๙ ข้อ ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันแก้ไฟป่าและฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕มาตรการหนึ่งที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งก็คือ ให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณา “ตัดสิทธิการได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่างจากภาครัฐ” หากตรวจพบว่า “มีการเผาในพื้นที่เกษตรของตนเอง” ประเด็นนี้รัฐบาลเองก็ต้องมีเครื่องมือช่วยเหลือเกษตรด้วย แต่เท่าที่ได้รับฟังมาหลายปี การเผาป่าทำให้ป่าสมบูรณ์กลายเป็น “ป่าเสื่อมโทรม” หวังนำไปจัดสรรแจกเป็นที่ดิน สปก.๔–๐๑ หรือ ออกเป็นโฉนดให้นายทุนครอบครอง ทำให้การเผาป่าเกิดขึ้นซํ้าๆในพื้นที่เดิมแทบทุกปี ถ้ารัฐบาลเลิกแจกที่ดิน สปก.ทุกปีเมื่อไหร่ การเผาป่าอาจลดลงก็ได้ความจริง ที่ดินเกษตรมีพออยู่แล้ว เพียงแต่ผลผลิตต่อไร่ตํ่า ถ้ายังแจกที่ดินใหม่เป็นล้านๆไร่ทุกปี อีกหน่อยป่าไม้ไทยจะถูกเผาจนไม่เหลือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ สงกรานต์เชียงใหม่ ในวันนี้ผมคิดว่า “การเล่นสงกรานต์ในห้องแอร์” หนีฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ อาจจะเวิร์กก็ได้นะครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม
