Thursday, 19 December 2024

ริจะทำงานใหญ่

เห็นนักท่องเที่ยวจีนถือปืนฉีดน้ำหลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วพลอยนึกไปถึงอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างนี่ประเทศไทยจะไปได้อย่างที่นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ได้สร้างฝันให้คนไทยเคลิ้มว่า ต่อไปจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เช่นว่าฮับการบิน ฮับการเงินระดับโลกระดับภูมิภาคต่างๆนานาที่ยกตัวอย่างนักท่องเที่ยวจีนคนนั้นก็เพราะเขามาเมืองไทยก็เพราะต้องการที่มาร่วมเทศกาลสงกรานต์ในเมืองไทยจึงเตรียมอุปกรณ์มาอย่างดีแต่ไม่รู้ว่าเทศกาลนี้เริ่มเมื่อไรอย่างไร รู้แต่เพียงว่าจะมีการจัดงาน “เวิลด์ สงกรานต์ เฟสติวัล” ๒๑ วัน มาถึงก็นึกว่าได้สาดน้ำกันเลย“สงกรานต์” ปีนี้ถือว่ารัฐบาลได้ยกระดับเป็นเทศกาลของโลกเพื่อมุ่งหวังให้นานาชาติได้รู้ว่าเมืองไทยมีเทศกาลอย่างนี้นะ… เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวแต่คงเป็นเพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านประชาสัมพันธ์ไม่ได้ให้รายละเอียดและข้อมูลต่างๆให้รับรู้กันอย่างละเอียดว่าประเพณีการเล่นน้ำสงกรานต์นั้น จะเริ่มกันวันไหน อย่างไร ที่ไหนบ้างทำให้คิดว่า มาถึงเมืองไทยก็เล่นได้เลย เพราะบอกว่ามีถึง ๒๑ วันความจริงแล้วเทศกาลนี้ไม่ใช่สาดน้ำพร้อมกันหมดทั้งประเทศแต่แยกพื้นที่ อย่างจังหวัดนั้นวันนั้นวันนี้ซึ่งไม่ตรงกันแต่รวมแล้วเทศกาลนี้ในประเทศไทยจะมีสาดน้ำกันทั้งหมด ๒๑ วันนี่แหละที่จะทำให้การเริ่มต้นที่จะให้สงกรานต์ก้าวไปสู่ระดับโลกยังไม่ได้ ก็เพราะการดำเนินการไม่ครบเครื่องพอไม่ต่างกับจุดพลุแล้วด้านอย่างใดอย่างนั้น!“เชียงใหม่” นั้นเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและมีประเพณีที่ดีงามมากมายอย่าง “สงกรานต์” นั้นถือเป็นเจ้าตำรับก็ว่าได้ ปกติจะมีงานฉลองกันหลายวันซึ่งนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆจะรู้ดี เพราะการมาเที่ยวเมืองไทย การได้มาร่วมงานสงกรานต์ที่เชียงใหม่จึงเป็นจุดหมายปลายทางอย่างหนึ่งโรงแรมที่พักถูกจองเต็มทุกปีปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพราะรัฐบาลจัดเป็นเฟสติวัลระดับโลกอะไรหรอกแต่เป็นเพราะเขารู้กันอยู่แล้วระยะหลังๆจะมีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ซ้อนขึ้นมาคือพีเอ็ม ๒.๕ คือฝุ่นพิษที่ปกคลุมไปทั้งเมือง นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆคนไทยทั้งประเทศต่างรู้กันดี ทำให้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ขึ้นไปเที่ยวเพราะกลัวจะเจ็บป่วยเพราะได้รับฝุ่นควันนี้มีตัวเลขระบุว่า อาจารย์จาก มช.เสียชีวิตเพราะเป็นมะเร็งเนื่องจากฝุ่นพิษนี้ไปจำนวนไม่น้อย นายกรัฐมนตรีน่าจะทราบดีแต่ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างถึงลูกถึงคน ไม่มีใครรับผิดชอบโดยตรง ที่เห็นหนักอยู่ก็ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เพิ่งมาเริ่มเอาจริงเอาจังก็ตอนนี้ด้วยการส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯเป็นแม่งาน เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งๆที่อีกไม่กี่วันเริ่มงานแล้วเห็นประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหา ทว่าในบ้านเราเองยังปล่อยให้ไฟป่าเผาไหม้จนหมอกควันคลุ้งไปทั้งเมืองเป็นการแก้ปัญหาแบบสุกเอาเผากินให้ผ่านไปปีๆเท่านั้น!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม