น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” ภายใต้นโยบายการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านอาหาร และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารไทยว่า โครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” ภายใต้นโยบายการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านอาหาร ขณะนี้ อว.กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยในเดือน มิถุนายนนี้ จะส่งมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไปเป็นพี่เลี้ยงและฝึกอบรมการเป็นเชฟอาหารไทยให้กับผู้ประกอบการด้านอาหาร เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่มีพลังและจะเป็นฟันเฟืองใหม่ที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ โดย อว.จะฝึกอบรบให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯผ่านทาง online และ on site ระยะแรก ๑๐,๐๐๐ คน คาดว่าจะสามารถผลิตเชฟอาหารไทยมืออาชีพ ระหว่างปี ๒๕๖๗-๒๕๗๐ ได้กว่า ๗๕,๐๘๖ คน และคาดว่าร้อยละ ๕๐ ของผู้ที่เข้าร่วมอบรมจะมีงานทำ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้รัฐมนตรีว่าการอว.กล่าวต่อว่า อว.มีบทบาทสำคัญในการพัฒนายกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ผ่านการสนับสนุนการนำองค์ความรู้ด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาพัฒนาท้องถิ่นและอัตลักษณ์ทางท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงอาหารท้องถิ่นด้วย โดยนำเอาศักยภาพของแต่ละพื้นที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนามายกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจและศักยภาพการผลิตผู้ประกอบการในพื้นที่จะได้นำความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม นำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน“ตัวอย่างหนึ่งของ อว.ที่เห็นเป็นรูปธรรมคือ การผลักดัน จ.ภูเก็ต และเพชรบุรีให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก รวมทั้งสนับสนุนงานวิจัยของชุมชนที่สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดอันนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทที่สำคัญในเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนแม่เหล็กในการดึงดูดชาวต่างชาติ ทำให้รายได้เข้าสู่ประเทศ รวมถึงเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวดนตรี กีฬา เทศกาล และภาพยนตร์อีกด้วย” น.ส.ศุภมาสกล่าว.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
