Thursday, 7 November 2024

"ธรรมนัส" ส่ง สส. "อรรถกร" ทำงานร่วม "กรมชลฯ" แก้น้ำเค็มทะลักเข้าคลอง

“ธรรมนัส” รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ส่ง สส.ฉะเชิงเทรา “อรรถกร” เร่งปฏิบัติการร่วมกรมชลฯ แก้น้ำเค็มทะลักเข้าคลองสายลองพื้นที่ ต.บางกรูด “ฉะเชิงเทรา” หลังประชาชน ได้รับผลกระทบ จากคันดินประตูน้ำท่าถั่วทรุดตัววันที่ ๑๓ เม.ย. เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา เขต ๒ และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ของคันดินกั้นน้ำ บริเวณประตูน้ำท่าถั่ว ต.บางกรูด อ. บ้านโพธิ์ ที่พบว่า มีการทรุดตัว ทำให้น้ำเค็มทะลักเข้าสู่คลองสายลอง สร้างผลกระทบต่อการผลิตน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และภาคเกษตร โดยเฉพาะ กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง และสัตว์น้ำ ซึ่งเรื่องนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทาน ในการติดตามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งแนวทางการเยียวยาเพื่อลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ จากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่เกิดขึ้น พบว่า มีแรงดันน้ำ ทำให้เกิดคันดินทรุดตัว และมีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปก่อนหน้านี้ โดยการใช้บิ๊กแบ็ก ขนาด ๒ ตัน จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อแก้ไขปัญหาอุดรอยรั่ว แต่ด้วยแรงดันจากน้ำทะเลหนุน ทำให้ถุงบิ๊กแบ็กแตก เพราะไม่สามารถรับแรงดันได้ น้ำเค็มจึงทะลักเข้าสู่คลองอีกครั้ง ซึ่งทางกรมชลประทาน ได้มีการรายงานถึงแนวทางการแก้ไขอย่างเร่งด่วนภายในวันนี้ ก่อนช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน ในเวลา ๑๗.๐๐-๑๘.๐๐ น. ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมชลฯ และผู้รับเหมา จำเป็นต้องเร่งมือในการเสริมคันดินให้แข็งแรง และสูงเพียงพอ ที่จะสามารถรับปริมาณน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงนี้ได้ พร้อมแผนดำเนินการสร้างแผ่นเหล็กชีทไพล์ เพื่อเสริมความแข็งแรงที่จะสามารถรับแรงดันน้ำให้ถาวรมากขึ้น นอกจากนี้ ในแผนการเยียวยาประชาชน และพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชน โดยการจัดเตรียมหาน้ำสำรอง เพื่อป้อนไปยังพื้นที่มีความต้องการใช้น้ำในทุกส่วนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค โดยเฉพาะป้อนเข้าระบบการผลิตน้ำประปา และที่สำคัญต้องเพียงพอ ต่อภาคการเกษตร ของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ โดยการส่งน้ำจากคลองรังสิต เหนือ และคลองรังสิตใต้ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำจืดในพื้นที่คลองท่าถั่ว เพื่อลดความเค็มของน้ำ ควบคู่ไปกับการสูบน้ำเค็ม ออกจากประตูระบายน้ำท่าถั่ว ซึ่งคาดว่าจะสูบประมาณ ๑ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีการประเมินว่า น้ำเค็มที่ทะลักเข้าสู่คลองบริเวณดังกล่าวมีมากถึง ๓ ล้านลูกบาศก์เมตร “ในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรฯ และเลขาธิการพรรค มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก พร้อมกำชับให้ผม ลงพื้นที่ที่ประสบปัญหา และร่วมแก้ไขอย่างเร่งด่วน แม้ว่าการทำงาน จะต้องเผชิญกับปัญหา ในเรื่องของเวลา น้ำขึ้น น้ำลง จึงต้องเร่งดำเนินการและประสานงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนได้เสนอให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที เพราะประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องนี้มาอย่างมาก คาดว่าแผนการปฏิบัติงานดังกล่าว จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนมากขึ้น” นายอรรถกร กล่าว