Thursday, 19 December 2024

เศร้า ลูกสาวเศรษฐี-แม่ลูกอ่อน ถูกสังหารในเหตุโจมตีห้างซิดนีย์ ๖ ศพ

ตำรวจออสเตรเลียเริ่มเปิดเผยข้อมูลผู้เสียชีวิตในเหตุมือมีดไล่แทงคนที่ห้างดังในนครซิดนีย์ออกมาแล้ว โดยรวมถึงลูกสาวของเศรษฐีในวงการสื่อโฆษณา และแม่ลูกอ่อนซึ่งลูกของเธอก็ได้รับบาดเจ็บด้วยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนที่ศูนย์การค้า ‘เวสต์ฟีลด์’ (Westfield) บริเวณแยกบอนได ในนครซิดนีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๓ เม.ย. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต ๖ ศพ บาดเจ็บอีก ๑๒ ราย ล่าสุดเริ่มมีการเปิดเผยข้อมูลเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ออกมาแล้วคนร้ายในคดีนี้มีชื่อว่า นายโจเอล เคาชี อายุ ๔๐ ปี เป็นชาวรัฐควีนส์แลนด์ เขาไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน แต่เคยพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต เขาถูกวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ และตอนนี้ตำรวจก็ยังไม่รู้ว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุของเขาคืออะไรกันแน่ตำรวจกำลังสืบสวนว่า นายเคาชีมุ่งเป้าโจมตีไปที่ผู้หญิงหรือไม่ แต่จากรูปการณ์แล้วดูเป็นเช่นนั้น เนื่องจากในกลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นหญิงถึง ๕ คน ส่วนอีกคนคือ นายฟาราซ ตาห์อีร์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พยายามเข้าไปหยุดคนร้าย ขณะที่ผู้บาดเจ็บก็เป็นผู้หญิงถึง ๘ จาก ๑๒ คนหนึ่งในเหยื่อของนายเคาชีคือ น.ส.ดอว์น ซิงเกิลตัน วัย ๒๕ ปี ลูกสาวของนายจอห์น ซิงเกิลตัน มหาเศรษฐีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจโฆษณา โดยเธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ ในสาขาวิชา สื่อสังคมและดิจิทัล และเธอกำลังทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายอีคอมเมิร์ซ ของร้าน White Fox Boutique ก่อนที่เธอจะถูกฆาตกรรม แอชลี กู้ด แม่ลูกอ่อนวัย ๓๘ ปี ซึ่งลูกสาววัย ๙ เดือนของเธอก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ด้วยผู้เสียชีวิตอีกรายที่ได้รับการเปิดเผยชื่อคือ น.ส.แอชลี กู้ด วัย ๓๘ ปี โดยเธอเสียชีวิตขณะรับการรักษาที่โรงพยาบาล หลายชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ขณะที่ลูกสาววัย ๙ เดือนของเธอซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนั้น ถูกคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน และจนถึงตอนนี้ ทารกน้อยยังคงมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังยืนยันตัวผู้เคราะห์ร้ายรายที่ ๔ ว่าคือ นางเจด ยัง อายุ ๔๗ ปี ผู้ทำงานเป็นสถาปนิกในซิดนีย์ ส่วนรายที่ ๕ คือ นางพิเครีย ดาร์เชีย ดีไซเนอร์และนักท่องเที่ยวจากประเทศจอร์เจีย และคนสุดท้ายคือ เฉิง อี้เซียน ชาวจีนติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : independent