กระแสข่าว การปรับ คณะรัฐมนตรีเศรษฐา ๑ ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ร้อนแรงไม่แพ้แดดร้อนในเดือนเมษา รัฐบาลทำงานมา ๗ เดือนแล้วยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ประชาชนเงยหน้าอ้าปากได้ รัฐบาลเพื่อไทยหมกมุ่นเสียเวลาไปกับการคิดหาเงิน เพื่อแจกใน โครงการแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ผู้มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ๕๐ ล้านคน วงเงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท หวังว่าจะกระตุ้นให้เกิด “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” ทำให้เศรษฐกิจฟื้นในเวลา ๖ เดือน แต่คิดมา ๗ เดือนแล้ว ก็ยังหาเงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ไปแจกไม่ได้ผลงานกระทรวงต่างๆก็ไม่มี “รัฐมนตรีที่โลกลืม” ใน รัฐบาลเศรษฐา ๑ ที่ประชาชนจำชื่อไม่ได้ ไม่เคยเห็นหน้ามีมากมาย มีแต่นายกฯเศรษฐา ที่ครองหน้าหนึ่งสื่อทุกวันเมื่อกระแสข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นักข่าวก็ไปถาม นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งใช้วันหยุดสงกรานต์อยู่ที่บ้านหัวหิน นายกฯเศรษฐา ก็ตอบชัดเจนว่า วันนี้ยังไม่มีการปรับอะไร เป็นแค่ข่าวลือที่ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ ทำให้มีการเคลื่อนไหวเยอะ ต้องขอความกรุณาว่า ยังไม่มีแพลนที่จะปรับ คณะรัฐมนตรีวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ หากออกข่าวไปเยอะจะมีความหวั่นไหว คนที่มีรายชื่อไปเกี่ยวข้องอาจมีความไม่สบายใจแม้จะปฏิเสธว่ายังไม่มีการปรับ คณะรัฐมนตรีแต่ นายกฯเศรษฐา ก็ชี้ทางกับนักข่าวว่าจริงๆแล้ว เรื่องการปรับ คณะรัฐมนตรีมีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะทำหน้าที่สภา การบริหาร เรื่องของการถูกคนถูกฝา ต้องไปดูอีกทีว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน ทุกอย่างเอาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก คำพูดของ นายกฯเศรษฐา ก็ตรงกับกระแสข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีที่ออกมาจากพรรคเพื่อไทยตามสื่อว่า จะมีการปรับ คณะรัฐมนตรีหลังสงกรานต์ ทั้งการปรับเข้าและปรับกระทรวง เช่น คุณพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกฯและประธานตลาดหลักทรัพย์ จะมาเป็น รัฐมนตรีคลัง แทน นายกฯเศรษฐา ที่จะไปควบ รัฐมนตรีกลาโหม แทน คุณสุทิน คลังแสง เพื่อให้ คุณสุทิน กลับไปทำหน้าที่งานสภา หรือ คุณไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯที่ทำงานไม่เข้าเป้า การสลับตำแหน่ง ระหว่างคุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ กับ คุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีวัฒนธรรม การแต่งตั้ง คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ เป็น รัฐมนตรีสาธารณสุข แทน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่มีผลงานไม่เข้าตา กลับไปทำหน้าที่คุมเกมในสภา เป็นต้นเรื่อง การปรับ คณะรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องใหญ่ที่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน จะทำเพียงคนเดียวไม่ได้ คงต้องถาม “นายใหญ่” คุณทักษิณ ชินวัตร และ “นายน้อย” คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าเห็นด้วยหรือไม่ จะปรับใครออกใครเข้าใครสลับกับใครเมื่อนักข่าวนำเรื่องปรับ คณะรัฐมนตรีไปถาม “นายใหญ่” คุณทักษิณ ที่บินไปสงกรานต์ที่เชียงใหม่ว่า ถึงเวลาปรับ คณะรัฐมนตรีหรือยัง นายใหญ่ทักษิณตอบว่า ต้องถามนายกฯ ต้องแล้วแต่นายกฯ นายกฯอาจทำงานแล้วมองว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง ก็เป็นเรื่องที่นายกฯจะต้องคิดแล้วเสนอพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ตนเองเป็นกองเชียร์ และบอกว่า ตนเองกับนายกฯเศรษฐาคุยกันเรื่อยๆ มีอะไรก็คุยกัน แน่นอนที่สุดว่า เรื่องใหญ่อย่างการปรับ ครม. นายกฯเศรษฐา ก็ต้องคุยกับ คุณทักษิณ แน่นอนการคิดปรับ คณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ผมก็เห็นด้วย ๗ เดือนที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย หลายกระทรวงเงียบเป็นป่าช้า จนไม่รู้ว่ามีรัฐมนตรีชื่ออะไรการตั้ง คณะรัฐมนตรีเศรษฐา ๑ ตั้งกันตาม โควตาพรรค โควตาบ้านใหญ่ ที่ส่งทายาทมาเป็นรัฐมนตรี สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด นายกฯก็เป็นทุกข์ ผลงานรัฐบาลไม่มี รัฐมนตรีก็เป็นทุกข์ เพราะทำงานไม่ได้ สุดท้าย ประเทศไทยก็ตกอยู่ในความทุกข์ ประชาชนก็ตกอยู่ในความทุกข์ เศรษฐกิจไม่ฟื้น ประเทศเดินหน้าไปไม่ได้ การปรับ คณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ผมหวังว่า นายกฯนิด นายใหญ่ นายน้อย จะยึดประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งนะครับ อย่างอื่นรอหน่อย.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม
