กระทรวงมหาดไทย เชิญชวนนักเรียน ม.๖ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมัครขอรับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาตรี จำนวน ๔๔ ทุน ใน ๑๑ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เปิดขอรับทุนฯ แล้วตั้งแต่วันนี้ – ๒๖ เม.ย. ๖๗ วันที่ ๑๖ เม.ย. ๒๕๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงรายละเอียดการรับสมัครนักศึกษาตามโครงการจัดส่งนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ปีการศึกษา ๒๕๖๗ โดยในปีนี้กระทรวงมหาดไทย เปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) รวม ๔๔ ทุน ประกอบด้วย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ๒๗ ทุน (ทุนละ ๔๐,๐๐๐ บาท/ปี) และสาขาวิชาสังคมศาสตร์ ๑๗ ทุน (ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในปีนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้ ๑) มีสัญชาติไทย มีภูมิลำเนาและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่ที่กำหนด ติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๓ ปี และมีอายุไม่เกิน ๒๕ ปีบริบูรณ์นับถึงวันที่รับสมัคร ๒) บิดา หรือมารดา หรือ ผู้ปกครอง ของผู้สมัคร จะต้องมีภูมิลำเนาปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๑ ปีนับถึงวันที่รับสมัคร ๓) ผู้สมัครฯ จะต้องกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในปีการศึกษา ๒๕๖๖ หรือ จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ๔) มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี โดยจะมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่สำเร็จการศึกษา แนบมาประกอบด้วย และกรณีผู้สมัครเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่ ๑ ปีการศึกษาขึ้นไปให้สถานศึกษาที่ผู้สำเร็จการศึกษา หรืออำเภอที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่เป็นผู้ออกหนังสือรับรองความประพฤติของผู้สมัคร และในกรณีที่ผู้สมัครได้เข้าร่วม หรือ เคยเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ จิตอาสากับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษาอื่น หรือหน่วยงานภาคเอกชน ให้สามารถใช้หนังสือรับรอง ประกาศเกียรติคุณเกียรติบัตร หรือ วุฒิบัตร ที่ออกโดยหน่วยงานนั้นๆ เป็นส่วนหนึ่งประกอบการรับรองความประพฤติได้ ๕) เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๖) ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมีหนังสือรับรองฐานะทางครอบครัวจากอำเภอที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่ ๗) ไม่เป็นผู้เคยถูกคัดชื่อออกจากสถานศึกษาใดๆ ๘) ไม่เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐในระบบปิด ๙) มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่มหาวิทยาลัยที่คัดเลือกเข้าศึกษานั้นๆ กำหนด ๑๐) ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังรับทุนหรือเคยได้รับทุนตามโครงการฯ นี้มาก่อนนอกจากนี้ นักเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศฯ และประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ จะต้องเป็นผู้มีคะแนนจากการสอบวัดวิชาความถนัดทั่วไป (TGAT) วิชาความถนัดวิชาชีพ (TPAT) และ/หรือวิชาข้อสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ (A-Level) ที่ยังไม่หมดอายุโดยจะต้องมีคุณสมบัติทางการศึกษาตามเงื่อนไขและมีผลคะแนนสอบส่วนกลางที่มีการประกาศผลคะแนนในระบบคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว ตามแต่ละรายวิชาของคณะ/สาขาวิชาที่ประสงค์จะใช้คัดเลือก ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดแนบท้ายประกาศฉบับนี้ จึงจะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งในปีนี้มีมหาวิทยาลัยที่จะรับนักศึกษาตามโครงการฯ จำนวน ๑๑ แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเงื่อนไขของโครงการฯ มีรายละเอียดดังนี้ ๑) ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินทุนอุดหนุนการศึกษาแก่นักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายหรือที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๕ และหลักเกณฑ์/เงื่อนไขของกระทรวงมหาดไทย ๒) ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเป็นนักศึกษาตามโครงการฯ และได้รับทุนอุดหนุนการศึกษา ต้องไม่เป็นผู้ที่ยืนยันสิทธิ์หรือเป็นผู้ที่ได้สละสิทธิ์การเข้าศึกษาในระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ (ระบบ ICAS) จากฐานข้อมูลผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ๓) ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเป็นนักศึกษาตามโครงการฯ และได้รับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาจะต้องทำสัญญากับจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนา โดยมีผู้ค้ำประกันว่า กรณีเรียนไม่สำเร็จการศึกษาเนื่องจากลาออกระหว่างการศึกษา หรือ ถูกให้ออก หรือ ถูกไล่ออกจากสถานศึกษา ถูกพักการศึกษา จะต้องชดใช้เงินทุนอุดหนุนการศึกษาคืนต่อทางราชการเป็นจำนวนสองเท่าของทุนอุดหนุนการศึกษาที่รับไป เว้นแต่กรณีไม่สำเร็จการศึกษาเพราะถึงแก่ความตาย หรือ ลาออกเนื่องจากเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เป็นคนไร้ความสามารถ เป็นบุคคลวิกลจริต หรือ จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ไม่ต้องชดใช้คืนทุนอุดหนุนการศึกษาที่ได้รับไป และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะยินยอมกลับไปปฏิบัติราชการในท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๓ ปี ถ้าไม่สามารถปฏิบัติราชการได้จะยินยอมชดใช้เงินทุนอุดหนุนการศึกษาคืนต่อทางราชการเป็นจำนวนสองเท่าของทุนอุดหนุนการศึกษาที่รับไป เว้นแต่กรณีที่ทางราชการไม่ต้องการ หรือ ไม่แจ้งให้ทราบภายในกำหนด ๑ ปีนับแต่วันสำเร็จการศึกษา หรือนักศึกษาผู้ได้รับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาถึงแก่ความตาย หรือ ลาออก เนื่องจากการเจ็บป่วยข้างต้น ไม่ต้องชดใช้คืนทุนอุดหนุนการศึกษาที่ได้รับไป ทั้งนี้ กรณีที่นักศึกษาผู้ได้รับเงินทุนอุดหนุนการศึกษายินยอมกลับไปปฏิบัติราชการแต่ไม่ครบกำหนดเวลาดังกล่าว จะต้องชดใช้คืนทุนอุดหนุนการศึกษาต่อทางราชการตามส่วนของระยะเวลาที่มิได้กลับเข้าปฏิบัติราชการ ซึ่งการชดใช้เงินทุนอุดหนุนการศึกษาคืนจะต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลา ๑ ปี นับจากวันที่ได้รับแจ้งให้ใช้เงินทุนอุดหนุนการศึกษาคืน หรือ ตามระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนดโดยสามารถศึกษารายละเอียด และข้อมูลรวมถึงดาวน์โหลดเอกสารการสมัครได้ทาง https://multi.dopa.go.th/haj/news/cate๗/view๑๕๗ หัวข้อ ข่าวทุนนักศึกษาฯ และสามารถกรอกข้อมูลการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมส่งหลักฐานการสมัคร ได้ตามแบบฟอร์ม https://forms.gle/๒JzeZsVG๔opTfwqT๗ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันศุกร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๓๐ น.