Thursday, 19 December 2024

ตั้งธงปรับใหญ่ ครม.

คงพอเห็นรูปเห็นร่างมากขึ้นกับการปรับ คณะรัฐมนตรีของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” แม้นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ใช่วันที่ ๑๗ เมษายน๖๗ แต่หลังจากนั้นก็ต้องไปลุ้นกันว่าจะเป็นเมื่อใดมาคู่กันก็ว่าได้ก็ผู้มีบารมีเหนือนายกรัฐมนตรีที่ระหว่างอยู่เชียงใหม่บอกว่า “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ยังไม่เป็นรัฐมนตรี ขอทำหน้าที่ในพรรคก่อนก็เป็นไปตามสูตรที่ว่า “เศรษฐา” คุมทำเนียบ “อุ๊งอิ๊งค์” คุมเพื่อไทยอย่างที่เคยบอกแล้วว่า “แพทองธาร” นั้น จะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ อย่างมากสุดก็แค่รองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์เท่านั้นเพราะเป้าหมายสูงสุดที่วางเอาไว้แล้วคือนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๑ ของประเทศไทยที่จะรับมอบต่อจาก “เศรษฐา” ในอีก ๓ ปีข้างหน้า เพราะไหนๆจะเล่นการเมืองทั้งทีก็ไปให้สุดไปเลยเพราะมีความพร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว รอเพียงเวลาเท่านั้น อีกทั้งไม่ต้องลงไปคลุกฝุ่นหรือเสริมบารมีให้กับคนอื่นมันก็แค่นี้แหละ…อ่านเกมไม่ยากนอกจากนั้น “ทักษิณ” ยังกำชับผู้นำประเทศคนปัจจุบันว่า “บางอย่างก็ไม่ต้องรอ” สามารถไปได้ อย่างการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น “ช้าไปหน่อย”ยอมรับว่ารัฐบาลมาปรึกษาบางเรื่องและการแก้ปัญหาพีเอ็ม ๒.๕เรื่องปรับ คณะรัฐมนตรีนั้น ให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอาเอง…ก็แน่ล่ะเรื่องนี้คงพูดต่อสาธารณะไม่ได้เนื่องเป็นการก้าวก่ายฝ่ายบริหารเพราะเป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจโดยตรง“เรื่องแบบนี้คงรู้กันแค่วงในเท่านั้น”ขืนทะเล่อทะล่าพูดออกไปจะซวยกันทั้งรัฐบาลเช่นกันนายกรัฐมนตรีแม้จะปฏิเสธว่า คิดว่าวันนี้ยังไม่มีการปรับอะไร แต่มีข่าวลืออกไปทำให้เกิดความไม่สบายใจของหลายฝ่ายเกิดขึ้นและมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเยอะ คนที่มีรายชื่อไปเกี่ยวข้องอาจมีความไม่สบายใจจึงอยากให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่“เรื่องการปรับ คณะรัฐมนตรีมีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะหน้าที่ในสภาฯ การบริหาร เรื่องของการถูกคนถูกฝา ทำงานมา ๖-๗ เดือนต้องไปดูอีกว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน ทุกอย่างเอาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก”“มีคนที่มีรายชื่อถูกปรับได้โทรศัพท์มาคุยบ้างแต่ได้ให้ความสบายใจไป”“รัฐมนตรีในโควตาของพลังประชารัฐยังไม่ได้ส่งรายชื่อ เดี๋ยวจะกลับไปคุย ถ้าจะมีการปรับในเร็วๆนี้ต้องถามว่าจะเอาใครเป็น ต้องให้เกียรติตลอดเวลา”เหล่านี้คือความเคลื่อนไหวว่าด้วยการปรับ คณะรัฐมนตรีแม้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแต่ก็มีเค้าลางที่พอจะมองเห็นแล้วว่า “มีแน่”จะแบบเล็กหรือใหญ่นั้น จากคำพูดของนายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นแบบปรับใหญ่มากกว่าที่บอกว่า “ถูกฝาถูกตัว”เพราะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้มีปัญหาหนึ่งก็คือ “คนไม่ถูกกับงาน” ทำให้บางกระทรวงงานไม่เดินหน้าหรืองานไม่ออกที่ชัดๆก็คือ บรรดารัฐมนตรีที่โลกลืม…ว่างั้นเถอะดังนั้น การปรับ คณะรัฐมนตรีจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการพูดคุยกับพรรคการเมืองที่รวมรัฐบาลทุกพรรคเพราะคงจะต้องมีการสลับปรับเปลี่ยนกระทรวงกันและรวมทั้งการเปลี่ยนคนด้วยว่าไปแล้วคงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรแต่ที่สุดแล้วน่าจะไม่มีปัญหาเพราะทุกพรรคยังต้องการที่จะร่วมรัฐบาลต่อไป ไม่มีพรรคที่ต้องการเป็นฝ่ายค้านนายกรัฐมนตรีจึงสบายใจได้ระดับหนึ่ง!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม