นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระบุชัดเจนถึง หลักเกณฑ์การจ้างงานคนพิการทั้งหน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการภาคเอกชน ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ ๑๐๐ คนขึ้นไป ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดเข้าทำงานในสัดส่วน ๑๐๐ คนต่อคนพิการ ๑ คน แต่ข้อมูล ณ วันที่ ๑๐ เมษายน๒๕๖๗ หน่วยงานของรัฐมีการจ้างคนพิการเพียง ๒๐.๒๐% หรือ ๓,๘๓๓ คนเท่านั้น ยังต้องจ้างเพิ่มถึง ๗๙.๘๐% หรือ ๑๕,๑๔๔ คน โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงแรงงาน และกระทรวงคมนาคม ที่มีการจ้างคนพิการทำงานในทุกกรม บางหน่วยจ้างเกินอัตรา ที่ผ่านมามีตัวเลขสำรวจคนพิการกว่า ๘ แสนคน ที่ขึ้นทะเบียนรองาน แต่มีเพียงแค่ ๕ หมื่นกว่าคนที่เข้าทำงานได้ ดังนั้นอยากเรียกร้องหน่วยงานรัฐเปิดพื้นที่จ้างงานคนพิการเพิ่มขึ้นอธิบดี พก.กล่าวว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายและนักวิชาการ พก.อยู่ระหว่างการปรับแก้ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๖ โดยหนึ่งในประเด็นที่ปรับแก้คือ การให้คนพิการมีอำนาจฟ้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา กรณีที่นายจ้างหรือหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานคนพิการ คาดว่าร่างปรับแก้จะเสร็จภายในสิ้นเดือน เมษายนนี้ จากนั้นก็จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฎหมายระดับกระทรวง ซึ่งมีนายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการพม.เป็นประธานนายกันตพงศ์กล่าวด้วยว่า อีกประเด็นที่ปรับแก้คือ การเปิดโอกาสให้สมาคม มูลนิธิด้านคนพิการที่จดทะเบียนจัดตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งได้มีการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้วย จากเดิมที่กำหนดให้แต่ตัวแทนองค์กรคนพิการระดับประเทศที่เข้าร่วมเป็นกรรมการเท่านั้น เพื่อให้องค์กรระดับพื้นที่ได้มีสิทธิมีเสียง.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
