นครปอมเปอีที่สาบสูญ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งโบราณคดีในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิตาลี ในอดีตนั้นนครแห่งนี้เปรียบเหมือนคฤหาสน์ตากอากาศของชนชั้นสูงของกรุงโรม จนกระทั่งภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดขึ้น เมืองทั้งเมืองจึงถูกฝังใต้เถ้าถ่านจากภูเขาไฟในปีคริสต์ศักราช ๗๙เมืองปอมเปอีถูกฝังอยู่ใต้เศษหินภูเขาไฟเป็นเวลานานนับพันปี จนกระทั่งซากปรักหักพังจากเหตุภัยพิบัติครั้งนั้นถูกค้นพบอีกครั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๖ โดยสถาปนิกชื่อ โดเมนิโก ฟอนตานา จากนั้นมานักโบราณคดีก็ได้ค้นพบซากมนุษย์และวัตถุโบราณอีกมากมาย ล่าสุด ก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังหายากในตำนานเทพเจ้ากรีก ถูกพบในห้องรับประทานอาหารขนาดยาวกว่า ๑๕ เมตร กว้าง ๖ เมตร นักโบราณคดีอธิบายว่าห้องนี้งดงามและล้อมรอบด้วยผนังสีดำหรูหรา ตกแต่งด้วยภาพวาดที่แสดงตัวละครในตำนาน ได้รับแรงบันดาลใจจากสงครามเมืองทรอย ซึ่งการที่ผนังทาสีดำก็เพื่อป้องกันไม่ให้ควันจากตะเกียงน้ำมันเลอะผนังนั่นเองส่วนภาพวาดตัวละครทั้งหลายถูกระบุว่าเป็นภาพ แคสซานดรา พระธิดาของกษัตริย์ไพรอัมและราชินีเฮคิวบา แห่งเมืองทรอย ซึ่งตามตำนานเล่าว่า แคสซานดราได้พรวิเศษมองเห็นอนาคตจากเทพอพอลโล ที่มีจิตพิศวาสต่อนาง ทว่าเมื่อหญิงสาวได้พรแล้วกลับหักอกเทพ ดังนั้นเทพเจ้าอพอลโลจึงสาปไม่ให้ใครเชื่อการมองเห็นอนาคตของแคสซานดรา ขณะที่ผลงานศิลปะที่โดดเด่นอย่างมากที่พบในครั้งนี้ก็คือภาพเฮเลนแห่งทรอย ที่ชาวกรีกยกเป็นสตรีที่สวยที่สุดในโลก โดยในภาพนี้ เฮเลนกำลังทำความรู้จักกับเจ้าชายปารีสแห่งทรอย.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
