ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯหนาแน่นต่อเนื่อง เมื่อคนเดินทางกลับหลังหมดวันหยุด พักผ่อนในเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๗ โดย ปภ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ยอดตายสะสม ๕ วันช่วงสงกรานต์พุ่งไป ๒๐๖ ศพ บาดเจ็บ ๑,๕๙๓ คน สาเหตุหลักยังมาจาก “ขับเร็ว-เมาแล้วขับ” กทม.รั้งแชมป์ทั้งยอดตายสะสม-คดีเมาแล้วขับ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายจราจร จับกุมผู้ฝ่าฝืนกว่า ๒ แสนราย ตักเตือนคนทำผิดครั้งแรก ๑.๗๖ แสนราย ด้าน “เศรษฐา” ปลื้มอีเวนต์สงกรานต์ปีนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี รวมถึง “งานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” กลางท้องสนามหลวง นทท.แห่ร่วมงานกว่า ๗.๘ แสนคน คาดทำเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า ๒.๘ พันล้านบาท ขณะที่ กทม.เก็บกวาดถนนข้าวสารและพื้นที่ใกล้เคียงได้ขยะอื้อรวม ๔ วันที่จัดงาน ๑๖๒ ตันหมดช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๗ ประชาชนที่เดินทางกลับไปภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างชุ่มฉ่ำก็เดินทางกลับมาทำงานตามปกติ ทำให้ตลอดวันที่ ๑๖ เม.ย. ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าเข้า กทม. และตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ กลับมาเนืองแน่นอีกครั้ง ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย (ปภ.) แถลงสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ ๓๐๑ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๔๐ คน บาดเจ็บ ๓๑๔ คน ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.๒๕๖๗ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ ๔๓.๑๙ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ ๒๓.๙๒ ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ ๑๕.๒๘ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ ๘๓.๘๒ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ ๗๘.๗๔ ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ ๓๘.๕๔ ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ ๓๑.๘๙ ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา ๑๖.๐๑-๑๗.๐๐ น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ ๒๐-๒๙ ปี สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง ๕ วันของการรณรงค์ (๑๑-๑๕ เมษายน๒๕๖๗) เกิดอุบัติเหตุรวม ๑,๕๖๔ ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม ๑,๕๙๓ คน ผู้เสียชีวิต รวม ๒๐๖ ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี ๑๗ จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ๖๑ ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน ๖๐ คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพ มหานครและเชียงราย จำนวน ๑๓ รายเท่ากันด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในวันที่ ๑๕ เม.ย. รวมทั้งสิ้น ๒๔๒ คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา ๒๓๖ คดี และคดีขับเสพ ๓๐ คดี สำหรับยอดรวมสะสม ๕ วัน ของ ๗ วันอันตราย มี ๔,๑๓๒ คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา ๓,๙๗๓ คดี คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๑๕ คดี ขับรถประมาท ๓ คดี คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๗ คดีขับเสพ ๑๕๖ คดี คิดเป็นร้อยละ ๓.๗๘ โดย กทม.มีคดีเมาขับสูงสุด จำนวน ๔๔๖ คดี ตามด้วย นนทบุรี ๒๓๘ คดี และสมุทรปราการ ๒๑๔ คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติสะสม ๕ วันของ ๗ วันอันตรายปี ๒๕๖๖ พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุรา ๕,๘๖๙ คดี และปี ๒๕๖๗ จำนวน ๓,๙๗๓ คดี ลดลง ๑,๘๙๖ คดี คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๓ต่อมา พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลประจำปี ๒๕๖๗ ร่วมกับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั่วประเทศว่า ตั้งแต่วันที่ ๑๑-๑๕ เมษายนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ ๑,๕๖๔ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๒๐๖ คน และผู้บาดเจ็บ ๑,๕๙๓ คน ภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ลดลงทุกหัวข้อ เมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆ พบสาเหตุสำคัญอันดับ ๑ คือการขับขี่ด้วยความเร็ว อันดับ ๒ ดื่มแล้ว ขับ และอันดับ ๓ คือขับรถปาดหน้ากระชั้นชิด อุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมากสุดตามถนนสายรองท้องถิ่น ร้อยละ ๖๐ ส่วนตามทางหลวง เกิดขึ้นร้อยละ ๓๘ การบังคับใช้กฎหมาย มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืน ๒๐๙,๐๐๐ ราย ตักเตือนผู้ที่กระทำผิดครั้งแรกกว่า ๑๗๖,๐๐๐ ราย รวมบังคับใช้กฎหมายกว่า ๓๘๕,๐๐๐ รายในส่วนภาพรวมของการจัดงานสงกรานต์ ๒๕๖๗ นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อช่วงสาย ถึงสถิติการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ดีขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะการจราจร ต้องขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ตนเชื่อว่าได้ไปกำกับดูแลจริงๆ เมื่อวันที่ ๑๕ เม.ย. คนเริ่มเดินทางกลับจำนวนมาก แต่ถนนพระราม ๒ ไม่ติดส่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจจับเมาแล้วขับ เป็นเรื่องที่ดี ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่าที่ติดตามข่าวและข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รวมถึงข้อมูลการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้ง เที่ยวบิน รถไฟ บริษัทขนส่งฯคนแน่น หลายจังหวัดมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่กรุงเทพมหานคร ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานนายเศรษฐากล่าวอีกว่า ดีใจที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงหรือทะเลาะวิวาท เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับปีใหม่ไทย ถือว่ามหาสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประสบ ความสำเร็จในด้านการท่องเที่ยว เพราะมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ส่วนสนามบิน ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมามีกว่า ๑๒ ล้านคน สูงกว่าปีที่แล้ว ๑๔๐ เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าช่วงสูงสุดแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุด และเชื่อว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปรับปรุงระบบ ทำให้คนที่เข้ามาไม่ต้องรอนาน ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการจัดงาน Maha Songkran World Water Festival ๒๐๒๔ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ เมษายนบริเวณถนนราชดำเนินกลางและท้องสนามหลวงว่า ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานถึง ๗๘๔,๘๘๓ คน มียอดขายร้านค้าภายในงานรวม ๙,๓๓๔,๓๓๕ บาท สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วถึง ๒,๘๘๖.๘๒ ล้านบาท และจากการสำรวจของ ททท. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ พึงพอใจระดับมากที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลชื่นชมความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้ ขอบคุณทุกความร่วมมือที่ช่วยกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่และขอบคุณมิตรไมตรีที่คนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในกิจกรรมวันสงกรานต์ ๒๕๖๗ ทั่วประเทศไทย เชื่อว่าความทรงจำที่เกิดจากการร่วมงานสงกรานต์ในไทย จะทำให้ นักท่องเที่ยวติดใจเสน่ห์ความเป็นไทย และอยากเข้าร่วมงานสงกรานต์ปีต่อๆไปที่ประเทศไทยขณะที่ภาพรวมการจัดงานสงกรานต์ถนนข้าวสาร ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อช่วงเช้าวันที่ ๑๖ เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจพื้นที่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดถนนข้าวสารหลังจบงานสงกรานต์เมื่อคืนวันที่ ๑๕ เมษายนผ่านมา โดยสำนักงานเขตพระนคร จัดเก็บขยะ ฉีดล้างทำความสะอาดทางเท้าและผิวจราจรในถนนข้าวสารกับพื้นที่โดยรอบหลังจบงาน และจัดเก็บขยะต่อเนื่องตั้งแต่เช้ามืดวันที่ ๑๖ เม.ย. ทั้งถนนรามบุตรี ทะลุถนนจักรพงษ์ ที่พื้นถนนขาวโพลนไปด้วยแป้ง ขยะ ขวดแก้ว ลังกระดาษ ปืนฉีดน้ำ ถังน้ำ กระป๋องแป้ง ฯลฯ โดยสรุปปริมาณขยะในถนนข้าวสารและพื้นที่โดยรอบ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๕ เมษายนรวม ๔ วัน ทั้งสิ้น ๑๖๒ ตัน แบ่งเป็นวันที่ ๑๒ เมษายนในถนนข้าวสาร ๑๒ ตัน พื้นที่ใกล้เคียง ๒๒ ตัน วันที่ ๑๓ เมษายนในถนนข้าวสาร ๑๕ ตัน พื้นที่ใกล้เคียง ๒๕ ตัน วันที่ ๑๔ เม.ย. ในถนนข้าวสาร ๑๕ ตัน พื้นที่ใกล้เคียง ๒๗ ตัน วันที่ ๑๕ เม.ย. ในถนนข้าวสาร ๑๖ ตัน พื้นที่ใกล้เคียง ๓๐ ตัน รวม ๔ วัน ในถนนข้าวสาร รวม ๕๘ ตัน และพื้นที่โดยรอบถนนข้าวสาร ๑๐๔ ตันอย่างไรก็ตาม แม้ส่วนใหญ่จะสิ้นสุดการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๗ แล้ว แต่หลายพื้นที่ยังคงมีการจัดเล่นน้ำต่อเนื่อง ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประชาชนได้ร่วมกันสรงน้ำพระและผู้สูงอายุตามประเพณีในวันไหลสัตหีบ ที่วัดป่ายุบ ซอยบ่อนไก่ ขณะที่ถนนภายนอกวัด มีนักท่องเที่ยว วัยรุ่น และประชาชนขับขี่รถจักรยานยนต์และนำถังน้ำขึ้นหลังรถกระบะ มาเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันเต็มท้องถนน จนภายในซอยรถติดยาวหลาย กม. สำหรับการเดินทางกลับกรุงตลอดวันที่ ๑๖ เม.ย. ตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟในแต่ละจังหวัดมีผู้คนเข้ามาใช้บริการเนืองแน่นอีกครั้ง โดยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ ๓ (อาเขต) ตลอดวันเนืองแน่นไปด้วยผู้ประสงค์เดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งนายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า มีการเสริมเที่ยวรถเพื่อรองรับผู้โดยสารไว้ โดยจำนวนรถหมวด ๒ (เชียงใหม่-กรุงเทพฯ) จากเดิมจำนวน ๖๘ เที่ยวต่อวัน เพิ่มอีก ๓๔ เที่ยว รวม ๑๐๒ เที่ยวต่อวัน และรถหมวด ๓ ซึ่งเป็นรถโดยสารต่างจังหวัด ยกเว้นเส้นทางกรุงเทพฯ จากเดิม จำนวน ๒๗๘ เที่ยวต่อวัน เพิ่มจำนวน ๘๓ เที่ยว รวม ๓๖๑ เที่ยวต่อวัน ขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ ๒ ตลอดวัน มีชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง ต่างอุ้มลูกจูงหลาน หอบหิ้วสัมภาระ ข้าวสาร ข้าวเหนียว อาหารแห้ง เดินทางมารอขึ้นรถโดยสาร และรถตู้ จนหนาแน่น ยิ่งในช่วงบ่ายถึงค่ำ ผู้คนที่มารอเดินทางกลับ ยังคงหลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่องส่วนบนถนนสายหลักที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ ยิ่งตกค่ำยิ่งหนาแน่นไปด้วยยวดยานสารพัดชนิด โดยถนนพหลโยธิน ฝั่งขาล่อง จากภาคเหนือ ช่วงอำเภอเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณรถเต็มผิวจราจร ตำรวจจราจรต้องคอยอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะตามจุดสี่แยกไฟแดงต่างๆ หากพบว่ามีปริมาณรถหนาแน่นเกินไป จะเปลี่ยนการใช้สัญญาณไฟเขียวไฟแดงอัตโนมัติ มาเป็นการใช้สัญญาณมือระบายรถแทน ส่วนถนนทางหลวงหมายเลข ๓๒ สายเอเชีย ขาล่อง มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ช่วงผ่านพื้นที่ จ.ชัยนาท ตั้งแต่ บ่ายถึงค่ำมีปริมาณรถเพิ่มขึ้น แต่ยังพอใช้ความเร็วได้ด้านถนนมิตรภาพจากภาคอีสาน ขาเข้า กทม.พบว่าช่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รถมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายยันดึก โดยเฉพาะทางขึ้นมอบันไดม้า กม.๕๕-๕๖ ต.หนองน้ำแดง กม.๕๒-๕๓ ทางโค้งขึ้นมอหน้าฟาร์มโชคชัย ต้องเปิดช่องทาง พิเศษให้รถเข้าไปวิ่งสวนทาง ๑ ช่องจราจร กระทั่งทางลงมอกลางดง กม.๓๖-๓๙ ก่อนเข้าเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รถเต็มทั้ง ๕ ช่องจราจร รวมทั้งช่องทางพิเศษ วิ่งสวนทางอีก ๑ ช่องจราจร ส่วนถนนมอเตอร์เวย์ M๖ ช่วงทางขึ้น กม.๓ ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนคร ราชสีมา และช่วงระยะเส้นทางผ่าน อ.ขามทะเลสอ อ.สูงเนิน อ.สีคิ้ว อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ปริมาณรถมากไปจนถึงช่วงก่อนลงมอเตอร์เวย์ ต.หนองสาหร่าย ไปบรรจบกับถนนมิตรภาพ ทำให้รถสะสมติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางยาว แขวงทางหลวงนคร ราชสีมาที่ ๒ จึงประกาศปิดทางเข้ามอเตอร์เวย์ M๖ จุดทางเข้าบริเวณอำเภอสีคิ้ว เป็นการชั่วคราว วันที่ ๑๖-๑๗ เมษายนนี้ เพื่อลดการจราจรติดขัดที่ทางออก จุดถนนมิตรภาพ กม.๖๕ขณะที่การจราจรขาลงเขาช่องตะโก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว อีกเส้นทางที่มาจากภาคอีสาน ตลอดช่วงสายถึงบ่ายมีปริมาณรถค่อนข้างมากขึ้นและเข้าขั้นหนาแน่นในช่วงเย็น ตั้งแต่ช่วงจุดตรวจหนองเสม็ด ส่วนถนนสาย ๓๕๙ สระแก้ว-เขาหินซ้อน มุ่งหน้าถนน ๓๐๔ ฉะเชิงเทรา ก็หนาแน่นด้วยยวดยานสารพัดชนิดไม่แพ้กัน ทำให้จราจรติดขัดช่วงบริเวณสี่แยกสระขวัญ ซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสำรวจการเดินทางกลับถึง กทม.ของประชาชนตลอดวันที่ ๑๖ เมษายนที่สถานี รถไฟสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบางส่วนทยอยเดินทางจากจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะ จากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลับเข้า กทม.อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดขบวนรถเสริมจำนวน ๔ ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ ๙๖๒ ศิลาอาสน์-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวนรถที่ ๙๓๔ อุบลราชธานี-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวนรถที่ ๙๓๖ อุดรธานี-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และขบวนรถที่ ๖ เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่มีผู้โดยสาร ตกค้าง ประชาชนที่เดินทางกลับส่วนใหญ่ยังคงมีการขนสัมภาระและสิ่งของต่างๆ รวมถึงของอุปโภคบริโภคเพื่อมาเป็นเสบียงลดค่าครองชีพ ใน กทม.โดยมีเจ้าหน้าที่ รฟท.คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารสูงอายุ สตรีมีครรภ์ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เป็นพิเศษ เดินทางไปเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้า MRT รถเมล์ ขสมก. จุดให้บริการรถแท็กซี่และวินจักรยานยนต์รับจ้างส่วนที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต ๒) มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากเส้นทาง เหนือ ใต้ ตะวันออก และอีสาน ทยอยเดินทางโดยรถทัวร์มาลงรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ๒ อย่างต่อเนื่อง พร้อมหอบหิ้วสัมภาระสิ่งของ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ที่นำมาจากบ้านเกิดกันอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมามีปริมาณมาก แม้ทางสถานีขนส่งหมอชิตจะจัดจุดให้บริการรถแท็กซี่ไว้รองรับ แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ต้องมีการเสริมรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ไว้ให้บริการรับส่งระหว่างสถานี ขนส่งหมอชิต และสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต เพื่อลดปัญหาความแออัดต่อมานายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม เปิดเผยภาพรวมการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๗ สะสม ๕ วัน (๑๑-๑๕ เมษายน ๒๕๖๗) ว่ามีปริมาณการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ ๑๒,๘๓๑,๐๒๖ คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๒๗ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๖๖ โดยระบบรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๔๔.๙๕ สำหรับระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) ๒๐๙,๓๙๗ คน-เที่ยว ภาคใต้ : ทางถนน ๑๔๖,๗๘๓ คน-เที่ยว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) : ทางถนน ๑๖๓,๐๗๘ คน-เที่ยว ภาคเหนือ : ทางถนน ๘๕,๖๗๕ คน-เที่ยว และภาค ตะวันออก : ทางถนน ๗๒,๐๐๗ คน-เที่ยว ขณะที่การจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯบนทางหลวงสายหลัก ๑๐ เส้นทาง มีปริมาณ ๔,๘๖๑,๙๐๗ คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๐.๗๘ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
