“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช รณรงค์ สว.ประชาชน ชี้เลือก สว.รอบนี้เป็นจุดเริ่มต้นแก้ปมการเมืองไทย ๒ มาตรฐาน ต้องได้ สว.ฝักใฝ่ประชาธิปไตยไม่น้อยกว่า ๗๐ คน ปลดล็อกแก้ รธน.๖๐ ชวนประชาชนร่วมลงแรงสมัครฝ่าด่าน สว.จัดตั้งวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ ที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดวงพูดคุยรณรงค์สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ประชาชน ย้ำความสำคัญของการเลือก สว. ชุดปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประชาธิปไตยนายธนาธร ระบุว่าหากย้อนกลับไปดูพัฒนาการการเมืองไทยรอบทศวรรษที่ผ่านมา มีคำหนึ่งคำที่ถูกใช้อย่างมากในการอธิบายกระบวนการยุติธรรมและการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระในประเทศไทย คือคำว่า “สองมาตรฐาน” เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ความศรัทธาต่อสถาบันต่างๆ ในบ้านเมืองตกต่ำขนาดนี้ เป็นเพราะกระบวนการยุติธรรมไม่ธำรงความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็น กลไกต่างๆ ไม่ทำหน้าที่รักษาความยุติธรรม แต่รับใช้ผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มผู้มีอำนาจอย่างไรก็ตาม การเลือก สว. ครั้งนี้คือโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งผิดให้ถูกต้อง แก้ไขปมที่พันกันยุ่งเหยิงให้ถูกต้อง ถ้าอยากเห็นประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตย เกิดความสมานฉันท์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการฟื้นฟูความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย นายธนาธร กล่าวต่อว่า ผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระหลายตำแหน่งกำลังจะหมดวาระลงในปีนี้ และ สว. ที่กำลังจะมีการเลือกจะต้องเป็นผู้รับรองการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม นี่คือปมที่พัวพันกันยุ่งเหยิงของการเมืองไทย รัฐธรรมนูญให้อำนาจ สว.ในการแต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระต่างๆ กระบวนการถอดถอนยาก มีอำนาจในการตัดสิทธิ ยุบพรรคการเมือง ออกกติกาที่ไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันจะแก้รัฐธรรมนูญได้ก็ต้องใช้ ๑ ใน ๓ ของ สว. นี่คือระบอบประยุทธ์ที่แม้ไม่มีประยุทธ์ในสนามการเมืองแล้ว แต่ระบอบก็ยังอยู่กับเราในรูปแบบรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ในฐานะประชาชนคนไทยเราต้องการเห็นการปรองดอง องค์กรอิสระเหล่านี้เมื่อต้องวินิจฉัยหรือออกกฎเกณฑ์ในเรื่องสำคัญของบ้านเมืองต้องเป็นธรรมเป็นกลาง ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้สิทธิพิเศษ นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเทศไทย ถ้าไม่มีอำนาจพิเศษแบบนี้ สังคมจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ด้วยกลไกรัฐสภา ไม่มีอำนาจที่อยู่นอกสภา และสภาจะเป็นกลไกสำคัญในการหาทางออกร่วมกันและประนีประนอมกันได้นายธนาธร กล่าวอีกว่า จึงเป็นปมมัดกันไปหมด ถ้าไม่มี สว. ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยเกิน ๗๐ คน ก็แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ การแกะปมนี้จึงอยู่ในมือของทุกคน สว. ๒๕๖๗ คือจุดเริ่มต้น หากสามารถทำให้มี สว. ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตย ไม่ถูกชักจูงด้วยผลประโยชน์อย่างน้อย ๑ ใน ๓ หรือ ๗๐ คนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะมีโอกาสที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยได้การเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้มีผลต่ออนาคตของประเทศมากกว่าที่เราคิดและเข้าใจกัน แต่ระบบการเลือก สว. ครั้งนี้ออกแบบมาให้คนดีเด่นดังที่ทำงานและมีความรู้ความสามารถด้านนั้นจริงๆ มีโอกาสตกตั้งแต่รอบแรกถ้ามาลงสมัครเพียงลำพัง ดังนั้น คนธรรมดาอย่างพวกเราต้องลงแรงและลงเงินค่าสมัคร ๒,๕๐๐ บาท เพื่อให้มี สว. อิสระที่มากกว่า สว. จากการจัดตั้ง ถ้าคนลงสมัคร สว. อิสระเยอะเท่าไร โอกาสที่คนดีเด่นดังจะเข้าไปเป็น สว. ก็จะเยอะเท่านั้น“ออกจากระบอบประยุทธ์ไม่ได้ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ แก้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ไม่ได้ ถ้าไม่มี สว. ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตย มากกว่า ๗๐ คน แน่นอนมันยาก สับสนวุ่นวาย แต่ต้องลงมือทำ แน่นอนว่าเป็นการร้องขอที่ใหญ่มาก ต้องควักเงินตัวเอง ๒,๕๐๐ บาท แต่ถ้าใครมีศักยภาพ ค่าสมัครอยู่ในวิสัยทางเศรษฐกิจที่พอรับได้ไปลงสมัครเถอะ ต่อให้ไม่อยากเป็นก็ไปเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ เหมาะสมเป็นตัวแทนของอาชีพท่าน เพื่อให้การเลือก สว. รอบนี้โปร่งใสและเป็นธรรม” นายธนาธรกล่าว
