“บิ๊กต่าย” เซ็นหนังสือคำสั่งฟัน “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” พร้อมลูกน้องรวม ๕ คน ให้ออกจากราชการไว้ก่อน อ้างตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน เกี่ยวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ แต่เปิดช่องผู้ต้องหาร้องค้านต่อ “กุมภาพันธ์ค.ตร.” หรือ ศาลปกครองได้ภายใน ๙๐ วัน โดยก่อนเซ็นคำสั่งช่วงสายวันเดียวกัน ดอดเข้าพบ “นายกรัฐมนตรี” ฐานะประธาน กรมตำรวจเพื่อขอคำปรึกษาแล้วกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตำรวจถูกชุดพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สั่งการให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ออกหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน หลังสอบสวนพบหลักฐานการเงินเกี่ยวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ จนมีกระแสข่าวว่าจะถูกสั่งพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา ๑๒.๑๐ น. วันที่ ๑๘ เม.ย. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตำรวจรรท.ผบ.ตำรวจเดินทางเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที หลังจากนั้นเดินทางกลับทันที มีรายงานว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐพูดคุยเกี่ยวกับข้อราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายประเด็น หลังจากนั้นนายกฯเชิญตำรวจจากสำนักงานกฎหมายและคดีเข้าหารือ คาดว่าเพื่อตรวจสอบเรื่องข้อกฎหมาย โดยเฉพาะอำนาจของนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เรื่องตำแหน่งสำคัญๆ หากกำหนดบทลงโทษต่างๆต้องขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ที่มีผู้บังคับบัญชาโดยตรงคือ รรท.ผบ.ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เย็นวันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่งที่ ๑๗๘/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน๒๕๖๗ เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ใจความว่า ด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไปนี้ ๑.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ๒.พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ๓.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธร พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ๔.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ ๑ กองกำกับการ ๖ กองบังคับการตำรวจจราจร และ ๕.ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้บังคับหมู่ งานสายตรวจ ๑ กองกำกับการ ๑ กองบังคับการตำรวจจราจรมีกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ชื่อ บีเอ็นเคมาสเตอร์ (BNKMASTER) จนถูกดำเนินคดีอาญาและถูกศาลอาญาออกหมายจับความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน และมีเหตุผลให้พักราชการได้ตามกฎ กรมตำรวจว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕๔๗ ข้อ ๓ (๑) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญาโดยผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่และอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา แต่กลับต้องหาว่า กระทำผิดทางอาญาเสียเองเป็นคดีสำคัญ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนและภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการได้ ประกอบกับพิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนพิจารณาที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็วอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๐๘ มาตรา ๑๓๑ และมาตรา ๑๗๙ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ ประกอบกฎ กรมตำรวจว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕๔๙ ข้อ ๘ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๑๑๘/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม๒๕๖๗ เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน จึงให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กับพวกรวม ๕ นายออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปอนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ กุมภาพันธ์ค.ตำรวจได้ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ มาตรา ๑๔๑ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน ๙๐ วันนับแต่วันพ้นกำหนด ๙๐ วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตำรวจมีหนังสือคำสั่ง ตำรวจที่ ๑๗๙/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๘ เม.ย. เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความว่า ด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไปนี้ ๑.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ๒.พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา ๓.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.ป.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ๔.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ ๑ กก.๖ บก.จร. และ ๕.ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่งานสายตรวจ ๑ กก.๑ บก.จร.ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงสืบเนื่องจากตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการมีคำสั่งที่ ๗๔๖/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๘ ธันวาคม๒๕๖๖ และคำสั่งที่ ๑๑๔/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๖ มีนาคม๒๕๖๗ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ กรณีต้องหาคดีอาญาความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและกระทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่สมคบกันและร่วมกันฟอกเงินตามคดีอาญาที่ ๓๙๑/๒๕๖๖ สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน และตามหมายจับของศาลอาญาที่ ๔๕๔๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม๒๕๖๖ การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นว่ามีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนด้วย ตามกฎ กรมตำรวจว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.๒๕๔๗ ข้อ ๒๘ และจากรายงานของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ ๕๙๓/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม๒๕๖๖ มีพฤติการณ์การกระทำดังนี้วันที่ ๓ ธันวาคม๒๕๖๖, วันที่ ๘ วันที่ ๑๖ มกราคม๒๕๖๗ และ ๕ มีนาคม๒๕๖๗ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ ๔ ศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ ๕๙๓/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม๒๕๖๖ มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ให้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ BNKMASTER รวม ๒๒ คน ความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ ๓๙๑/๒๕๖๖ปรากฏว่า น.ส.พิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้บริหารจัดการเว็บพนันออนไลน์ ใช้บัญชีบุคคลอื่นบริหารจัดการเว็บไซต์ที่จัดให้เล่นการพนันออนไลน์ด้วยการรับเงินเข้าออกจากผู้เล่นการพนัน รวมทั้งจ่ายสินพนันและเก็บผลประโยชน์จากการเล่นพนัน มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคาร น.ส.พิมพ์วิไล ผ่านบัญชีธนาคาร น.ส.เบญจมิน แสงจันทร์ เป็นบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นผู้ครอบครองและใช้หลายครั้ง เมื่อโอนเงินแล้วส่งหลักฐานการโอนผ่านไลน์ไปให้นายณพรรษกรณ์แหเกิด พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร และ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ทราบ จากนั้นโอนเงินจากบัญชี น.ส.เบญจมิน เข้าบัญชี ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว หรือ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร แล้ว พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ สั่งการให้ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หรือ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ผ่านไลน์ให้นำเงินสดใส่ซองไปวางบนโต๊ะทำงานในบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และมีการรับโอนเงินสดจากหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารและเครื่องฝากเงินอัตโนมัติอีกจำนวนมาก และโอนเงินออกไปยังบัญชีบุคคลอื่นศาลอาญาอนุมัติให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ตามหมายจับศาลอาญาที่ ๑๐๖๓/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม๖๗ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ตามหมายจับศาลอาญาที่ ๔๕๔๙/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม๖๗ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ตามหมายจับศาลอาญาที่ ๑๐๖๔/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม๖๗ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ตามหมายจับศาลอาญา ๑๐๖๕/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม๖๗ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตามหมายจับศาลอาญาที่ ๑๓๙๖/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๒ เมษายน๖๗ เหตุเกิดระหว่างวันที่ ๘ กุมภาพันธ์๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓ พฤศจิกายน๒๕๖๕ สถานที่เกิดเหตุทั่วราชอาณาจักรส่วน พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ถูกสอบสวนวินัยไว้ก่อนแล้ว ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการที่ ๗๔๖/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๘ ธันวาคม๒๕๖๖ และคำสั่งที่ ๑๑๔/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๖ มีนาคม๒๕๖๗ นั้น เป็นการดำเนินการภายในอำนาจตามข้อเท็จจริงขณะนั้น แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังว่าเป็นกรณีข้าราชการตำรวจตำแหน่งต่างกันและอยู่ต่างสังกัดกันถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงร่วมกัน ให้ผู้มีอำนาจสำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่มีตำแหน่งสูงกว่าหรือผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการสำหรับผู้ถูกกล่าวหาทุกคนเป็นผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ มาตรา ๑๐๕ มาตรา ๑๐๘ มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๗๙ ประกอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๑๐๘/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม๒๕๖๗ เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ ๔๓๖/๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน๒๕๔๘ เรื่องมอบอำนาจการดำเนินการทางวินัย การสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการ และกำหนดแนวทางปฏิบัติ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ๑๔ นาย เพื่อสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาเรื่องดังกล่าว ให้ พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตำรวจเป็นประธานกรรมการ และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เป็นกรรมการและเลขานุการอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
