คืนสู่ความเป็นปกติหลังฉลองวันสงกรานต์หลายวัน ว่ากันโดยรวมครานี้สถิติอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลงนั้น เท่ากับบ่งบอกว่าผู้คนมีความหวงแหนชีวิตมากขึ้นที่สำคัญก็คือ มาตรการของรัฐบาลในการดูแลประชาชน ได้ยกระดับมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพแน่ล่ะ…เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานหนักเพื่อให้บริการ ก็ต้องขอบคุณในนํ้าจิตนํ้าใจอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยที่น่าพอใจที่สุดก็คือ สงกรานต์ปีนี้ “พีก” สุดเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งประเทศในแต่ละจุดที่จัดงานไม่ว่าคนไทยและนักท่องเที่ยว ร่วมสนุกสนานกันเป็นจำนวนมากเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะทำให้สงกรานต์ประเทศเป็น “เทศกาล” ระดับโลก ที่ใครๆก็อยากมาร่วมสนุกสนานหรรษาด้วยถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง…ปิดท้ายในแวดวงการเมืองก็คือ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อกราบขอพรและสวัสดีปีใหม่ไทย “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มากบารมีอีกด้วยนึกว่าจะไม่ได้พบกัน เพราะที่เชียงใหม่ก็ไม่ได้ไป ปล่อยให้บรรดารัฐมนตรีเพื่อไทยยกโขยงขึ้นไปอวยพรกันเพียบแต่ที่สุดก็ฉายเดี่ยวเพียงคนเดียว“เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ อย่าคิดมาก”ก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างย่อมเป็นเช่นนี้เอง…จากนี้ไปคงเป็นงานใหญ่ของนายกรัฐมนตรีอีกงานหนึ่ง คือ การปรับ ครม. โดยนายกรัฐมนตรีพูดลอยๆว่า “ไม่ต้องมาวิ่งเต้นไปหาคนนั้นคนนี้ ขอให้ทำงานให้ดีดีกว่า ปรับเมื่อไหร่ก็รู้เอง”ความเป็นไปได้ในเรื่องอีกไม่นาน นายกรัฐมนตรีน่าจะปรึกษาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงแนวทางการดำเนินการ พูดง่ายๆคือ แต่ละพรรคจะเอาอย่างไร จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ แต่รัฐบาลจะเอาอย่างนี้โอเค…มั้ยเท่าที่ติดตามข่าว ภูมิใจไทยยังไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะมีข้อเสนออย่างอื่น ก็คงจะว่ากันตรงนั้นพลังประชารัฐนั้น แน่นอนว่าจะเสนอบุคคลให้เข้ารับตำแหน่งตามโควตาที่ค้างไว้ ๑ เก้าอี้ ส่วนรวมไทยสร้างชาติก็น่าจะขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบางคน เพราะเป็นปัญหาภายในพรรคที่น่าสนใจที่สุด “เพื่อไทย” นี่แหละ…ไล่ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีว่าจะควบกระทรวงการคลังต่อไปหรือโยกไปควบกลาโหมแทน เพราะมีข่าวหนาหูมากประเด็นสำคัญก็คือ ต้องการให้การทำงานในสภาฯของรัฐบาลราบรื่นและเข้มแข็ง จึงต้องเอาบุคคลที่เชี่ยวชาญเข้าไปเสริม จึงจำเป็นต้องถอดรัฐมนตรีออก เพื่อไปทำหน้าที่อย่าง “สุทิน คลังแสง”-“นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” เป็นต้นอีกทั้งคนที่จะมาแทนในฐานะรัฐมนตรีคลังก็ได้ตัวแล้ว ที่สำคัญมีฝีมือและได้รับการการันตีจากผู้มากบารมีด้วยนี่คงเป็นตำแหน่งหลักๆที่น่าจะลงตัวแล้วส่วนตำแหน่งอื่นๆก็คงเป็นบรรดารัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน และไม่มีพลังภายในมากนัก ถอดออกไปก็ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใดเพียงแค่บอกว่า ๗ เดือนที่ผ่านมา ผลงานรัฐบาลยังไม่น่าพอใจ…ก็จบแล้ว!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
Related posts