Friday, 8 November 2024

ทำไม อิสราเอล-อิหร่าน เป็นศัตรูคู่อาฆาต จ่อจุดชนวนสงครามตะวันออกกลาง

20 Apr 2024
192

อิสราเอล-อิหร่าน สองประเทศสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง ‘เปิดหน้า’ ทำสงครามกันโดยตรงเป็นครั้งแรก หลังซุ่มทำ ‘สงครามลับ’ ผ่านการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธกันมาหลายสิบปีทำไมอิสราเอลและอิหร่าน จึงกลายเป็นปรปักษ์ ศัตรูคู่แค้นที่บาดหมางร้าวลึกกันมายาวนาน จนกำลังทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดหนัก และสงครามพร้อม ‘ระเบิด’ ขึ้นได้ทุกเมื่อเสียงระเบิดหลายครั้งที่ดังสนั่นเหนือท้องฟ้าในจังหวัดอิสฟาฮาน ทางตอนกลางของอิหร่านเมื่อช่วงเช้าของวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ ทำให้ชาวอิหร่าน อิสราเอล และนานาประเทศทั่วโลกต้องหวั่นวิตก เพราะนี่ถือเป็นการเปิดฉากโจมตีของอิสราเอล เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ส่งโดรนและยิงขีปนาวุธกว่า ๓๐๐ ลูก มาโจมตีอิสราเอลเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่วถือเป็นการทำสงครามโดยตรง โจมตีกันแบบซึ่งหน้าเป็นครั้งแรก หลังอิหร่านใช้การทำ ‘สงครามตัวแทน’ สู้กับอิสราเอลมาหลายสิบปีจนก่อให้เกิดคำถามว่า ทำไมอิสราเอลและอิหร่าน จึงกลายเป็นชาติปรปักษ์ ศัตรูคู่แค้นกันมายาวนานขนาดนี้? และทั้งสองชาติกำลังสร้างความเสี่ยงมากขึ้นที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียด ยกระดับกลายเป็นสงครามในตะวันออกกลาง อิหร่านเปิดฉากส่งโดรนและยิงขีปนาวุธกว่า ๓๐๐ ลูกมาโจมตีอิสราเอล เมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ แต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสกัดได้เป็นส่วนใหญ่จุดเริ่มต้นความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านความจริงแล้ว อิสราเอลและอิหร่าน เคยเป็นมิตรกันมาก่อน จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๙ในช่วงนั้น อิหร่านถูกปกครองโดยราชวงศ์ปาห์ลาวี มายาวนานเกือบ ๕๔ ปี ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๒๕-๑๙๗๙ และพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ทรงครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิหร่าน ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๔๑-๑๙๗๙ ก่อนความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านมาถึงจุดแตกหักนั้น มิตรไมตรีระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหวานชื่น ถึงขนาดที่อิหร่าน เป็นหนึ่งในประเทศที่รับรองรัฐอิสราเอล หลังประกาศอิสรภาพและก่อตั้งชาติได้สำเร็จในปี ๑๙๔๘ จึงทำให้อิสราเอลเคารพอิหร่านในฐานะเป็นชาติอาหรับที่เป็นพันธมิตร ในขณะเดียวกัน อิหร่านก็ยินดีที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการช่วยคานน้ำหนักกับประเทศอาหรับอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางย้อนกลับไปในช่วงที่ทั้งสองประเทศยังดีต่อกันนั้น อิสราเอลได้มีการฝึกสอนผู้เชี่ยวชาญการเกษตรของอิหร่าน สนับสนุนด้านเทคนิค ความรู้ Know-how ต่างๆ ให้แก่อิหร่าน รวมทั้งยังช่วยสร้างกองทัพและฝึกสอนด้านการทหารให้แก่กองทัพอิหร่าน ในขณะที่พระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน ก็ทรงตอบแทนด้วยการให้น้ำมันแก่อิสราเอลไม่เพียงเท่านั้น อิหร่านยังถือเป็น ‘บ้าน’ ที่มีชุมชนชาวยิวอาศัยอยู่ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง นอกประเทศอิสราเอล และถึงแม้เกิดการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อปี ๑๙๗๙ แล้ว ทุกวันนี้ ยังมีชาวยิวที่ยังอาศัยอยู่ในอิหร่านมากกว่า ๒๐,๐๐๐ คนกระทั่งเมื่อเกิดการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน เมื่อปี ๑๙๗๙ และพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี ถูกโค่นบัลลังก์ เปลี่ยนการปกครองในอิหร่านจากระบอบกษัตริย์เป็นสาธารณรัฐ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ความสัมพันธ์อิสราเอล-อิหร่านเปลี่ยนไปเมื่อใด?หลังจาก อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี เป็นผู้นำก่อการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านในปี ๑๙๗๙ แล้ว โคไมนีได้ทิ้งข้อตกลงที่อิหร่านเคยทำไว้กับอิสราเอลทั้งหมด โดยโคไมนีได้วิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลอย่างรุนแรงที่ยึดครองดินแดนของชาวปาเลสไตน์ และค่อยๆ ยกระดับการกล่าวโจมตีอิสราเอลเพิ่มมากขึ้นๆ ซึ่งตามความเห็นของนักวิเคราะห์ชาติตะวันตกมองว่า โคไมนีมีจุดประสงค์เพื่อหวังจะชนะใจชาติอาหรับอื่นๆเมื่ออิสราเอลส่งกำลังทหารเข้าไปในภาคใต้ของเลบานอนในปี ๑๙๘๒ เพื่อแทรกแซงสงครามกลางเมืองในเลบานอน ด้านโคไมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านก็ได้ส่งทหารกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านไปยังกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอนเพื่อสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ในพื้นที่ ซึ่งมีชื่อกลุ่มว่า ‘ฮิซบอลเลาะห์’ และเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่อิหร่านให้การสนับสนุนมาจนถึงวันนี้ ทำ ‘สงครามตัวแทน’ กันมายาวนานหลายสิบปีก่อนที่อิสราเอลและอิหร่านจะเปิดหน้า ทำสงครามกันโดยตรง ด้วยการที่อิหร่านส่งโดรนติดระเบิดและยิงขีปนาวุธกว่า ๓๐๐ ลูกไปโจมตีอิสราเอลอย่างโจ่งแจ้งเป็นครั้งแรกเมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ นั้น อิหร่านได้ทำสงครามลับๆ หรือสงครามตัวแทนกับอิสราเอลมานานหลายทศวรรษแล้วเป็นที่รู้กันดีว่า อิหร่านได้ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลางหลายกลุ่มที่เป็นศัตรูกับอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอิหร่าน เล็งถล่มเป้าหมายในจังหวัดอิสฟาฮาน ทางภาคกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศสำคัญ ฐานทัพทหาร โรงงานนิวเคลียร์ และโรงงานผลิตอาวุธของอิหร่านเมื่อ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗อิสราเอล-อิหร่าน เปิดหน้าทำสงครามโดยตรงคร้ังแรกความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลางกับอิสราเอลอุบัติขึ้น เมื่ออิสราเอลได้โจมตีฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตราว ๑,๒๐๐ ศพ และยังจับตัวประกันมาประมาณ ๒๔๐ คน เมื่อ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ ในขณะที่สงครามอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา ทำให้จนถึงขณะนี้ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วนับ ๓๔,๐๐๐ ศพ การโจมตีฉนวนกาซาอย่างไม่ยอมรามือของรัฐบาลอิสราเอลสายขวาจัด ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์ล้มตายบาดเจ็บจำนวนมาก และต้องอพยพหนีภัยสงครามกว่าล้านคนได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส อดอยากขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มกบฏฮูตีประกาศสนับสนุนกลุ่มฮามาส ฮิซบอลเลาะห์โจมตีทางภาคเหนือของอิสราเอล ส่วนกบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซากระทั่งการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนกับอิสราเอลที่ดำเนินต่อเนื่องมาหลายเดือน มาถึงจุดพลิกผันครั้งสำคัญ เมื่อเกิดเหตุสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรียถูกโจมตีทางอากาศ เป็นเหตุให้นายทหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอิหร่านเสียชีวิตไป ๗ ราย เมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๖๗แน่นอน อิหร่านกล่าวหาว่าเหตุการณ์ร้ายแรงนี้เป็นฝีมือของอิสราเอลและประกาศจะตอบโต้อย่างแน่นอน ก่อนในที่สุด อิหร่านภายใต้การนำของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด ได้ ‘เปิดหน้า’ ทำสงครามกับอิสราเอล ส่งโดรนและยิงขีปนาวุธกว่า ๓๐๐ ลูก ไปโจมตีอิสราเอลโดยตรงเป็นครั้งแรกเมื่อ ๑๓ เมษายน ที่ผ่านมา แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลและชาติพันธมิตรก็สามารถสกัดโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านได้เกือบทั้งหมดทว่าเหตุการณ์รุนแรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะอิสราเอลซึ่งประกาศจะเอาคืน ได้เปิดฉากตอบโต้ โจมตีอิหร่านแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันที่ ๑๙ เมษายน จนทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดหนัก และกำลังก่อความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามในตะวันออกกลางอย่างยิ่ง ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์ที่มา : DW,BBC