“เศรษฐา” เมินแรงกระเพื่อมปรับ ครม. ย้ำภูมิคุ้มกัน รัฐมนตรีดีที่สุดคือการทำงาน ยันพรรคร่วมรัฐบาลรักกันดี ไม่มีปัญหา “สุทิน” เสียงอ่อยไม่คิดมาก อดพิสูจน์ฝีมือ แจงดราม่า “ทักษิณ” ไม่รับพวงมาลัย อวยพรสงกรานต์ “พวงเพ็ชร” รับหวั่นไหวชื่อติดโผหลุดเก้าอี้ตลอด อ้อนขอโอกาสอยู่สานต่องานสำคัญ “วันนอร์” รับไม่ได้ถูกแซะเก้าอี้ ชี้ไม่มีประเพณีเปลี่ยนประธานสภาฯกลางคัน “ภูมิธรรม” วอนยุติอย่าจินตนาการบั่นทอนจนปั่นป่วน “อุ๊งอิ๊งค์” ประสาน เสียงไม่เคยพูดจะไปยึดคืน ยันไม่มี สส.กดดันให้ พท.ทวงโควตาประธานสภาฯ “ออน” ปัด สว.ทัวร์ นอกทิ้งทวน อ้างจีน-ฟินแลนด์เชิญไปดูงานต่อยอดยกร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ นายกฯไปภูเก็ตรอบ ๓ บี้เร่งสร้างอุโมงค์กะทู้-ป่าตองแก้จราจรติดขัด ขันนอตตำรวจกวาดล้างพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ปราบเว็บพนันออนไลน์จากกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา ๒” ทำให้บรรดารัฐมนตรีที่มีรายชื่อจะหลุดเก้าอี้ ต่างเคลื่อนไหวเช็กกระแสข่าวดังกล่าว ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ยืนยันภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน พร้อมยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน “เศรษฐา” ยันพรรคร่วม รบ.คุยกันดีเมื่อเวลา ๐๗.๕๐ น. วันที่ ๑๙ เมษายนที่ท่าอากาศยานทหาร ๒ (กองบิน ๖) ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาลทานอาหารตามวงรอบ หลังจากก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพไปแล้วว่า การนัดครั้งต่อไปเข้าใจว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพ แต่ยังไม่ทราบกำหนดการ ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพที่จะนัดมา เมื่อถามว่าน่าจะต้องมีการนัดหมายกันได้แล้วใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามา อาจจะต้องพูดคุยถึงเรื่องการทำงาน นายเศรษฐากล่าวว่า อย่าโยงเกี่ยวกัน ๒ เรื่อง และในที่ประชุม ครม. ยังพูดคุยกันดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล หนแรกพรรค พท.เป็นเจ้าภาพ หน ๒ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.เป็นเจ้าภาพ หากดูตามจำนวน สส.ครั้งต่อไป พรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพเดี๋ยวคงต้องถามพรรค พปชร.ดูทุกครั้งพูดคุยกันเรื่องการทำงาน เมื่อถามว่าต้องมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่เรื่อง พูดคุยกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเมินแรงกระเพื่อมย้ำยึดผลงานเมื่อถามว่าหลังมีข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีออกไป มีแรงกระเพื่อมทางการเมืองที่อาจมีผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องบอกว่าแรงกระเพื่อมคืออะไร อย่างที่เคยเรียนไปเมื่อ ๒-๓ วันก่อนในช่วงสงกรานต์ มีการวิ่งเต้นสอบถามข่าว จึงบอกว่าภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือการทำงาน เมื่อถามว่าจะลดแรงกระเพื่อมให้บรรดาผู้ที่หวั่นไหวหรือไม่ หลังบางคนมีชื่อออกมา นายเศรษฐากล่าวว่า ยืนยันเหมือนเดิม ภูมิคุ้มกันที่ดีคือเรื่องของการทำงาน เมื่อถามว่าน่าจะลดแรงหวั่นไหวของรัฐมนตรีบางท่านได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ เมื่อถามว่าหลังมีข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีทำให้รัฐมนตรีหลายคนขยันทำงาน นายกฯ ยิ้มก่อนกล่าวว่า แล้วแต่สื่อจะตั้งข้อสังเกตกัน อย่างที่บอกในฐานะผู้นำรัฐบาลเรื่องที่สนใจมากที่สุดคือผลงาน เมื่อถามว่านายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ ออกมาบอกว่าอยากให้พรรค พท.ยึดกระทรวงเกษตรฯ ไว้ เพราะมีนโยบายหลายอย่างต้องขับเคลื่อน นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเลข ๑๔๑ เสียงกับ ๕๐๐ เสียง ทุกคนอยากได้หมด“สุทิน” เเจงดราม่า “ทักษิณ” ไม่รับมาลัยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความพอใจผลงาน ๖-๗ เดือน รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากรัฐมนตรีว่า ผลงานเป็นที่พอใจ แต่ยังไม่ ๑๐๐% เรื่องปรับ คณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องปกติไม่ได้คิดอะไรมาก นายกฯ เป็นกัปตันทีม ท่านจะเปลี่ยน และสลับตำแหน่งผู้เล่น สามารถทำได้ เป้าหมายคือต้องได้ประตู และต้องชนะ สำหรับตนไม่มีปัญหา เสียดายเพียงว่าอยากใช้เวลาพิสูจน์พลเรือนเป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ นักการเมืองมีวุฒิภาวะพอรับผิดชอบงานความมั่นคงได้ เสียดายตรงนี้นิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่เสียดาย ใครมาทำต่อได้ ถ้านายกฯ มาอำนาจท่านสมบูรณ์อยู่แล้ว ดราม่ากันไปเยอะเรื่องมอบพวงมาลัยให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถ้าสังเกตดีๆ ตนไม่ได้ยื่นเลย แต่ยกมือไหว้ จากนั้นเข้าไปนั่งคุยในห้องแล้วมอบให้ แต่ตอนมอบคนไม่ได้ดู เมื่อวันที่ ๙ เมษายนที่ได้พูดคุยกันไม่มีการคุยหรือสัญญาใจหรือรับประกันอะไร แต่คุยแนะนำการทำงาน ให้พรการทำงาน เมื่อถามว่าการไปเข้าพบนายทักษิณเป็นสัญญาณได้อยู่ต่อหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ท่านคงไม่แนะนำถึงขนาดนั้น การบริหารทีมอยู่ที่นายกฯ ตัดสินใจเอง ถ้าไม่ได้พูดคุยแต่ปรับออกก็ไม่เคือง แฟร์ๆ อยู่แล้ว ให้เกียรติทุกคน แต่หากปรับออกต้องมีการบอกส่งสัญญาณกัน เข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลา ถ้าถูกปรับออกให้ไปทำงานสภาฯ ทำงานได้ทุกที่ ถนัดทุกอย่างบริหารก็ถนัด“พวงเพ็ชร” รับหวั่นไหวมีชื่อหลุดโผนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีที่มักมีชื่อติดโผถูกปรับออกว่า เป็นเพียงกระแส แต่ยังไม่ได้รับแจ้งจากใคร โดยเฉพาะนายกฯ ซึ่งอำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ส่วนตัวคิดว่าตนทำงานเยอะมาก และตั้งใจทำงานในทุกหน้าที่ที่นายกฯมอบหมายยังอยากขอโอกาสทำงานให้กับประเทศชาติต่อไป เนื่องจากยังมีหลายงานคั่งค้าง อยากทำงานสำคัญให้สำเร็จลุล่วง เมื่อถามว่าเวลาการทำงาน ๗ เดือนสั้นไปหรือไม่ นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า จริงๆแล้วสิ่งสำคัญคืองบประมาณยังไม่ได้ใช้ ซึ่งโอกาสใกล้เข้ามาที่จะได้ใช้งบฯแสดงฝีไม้ลายมือต่างๆ และตั้งแต่เป็นข่าวว่าจะถูกปรับจาก คณะรัฐมนตรีก็ทำงานไม่เคยหยุด เมื่อคืนก็ไปจับบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อถามว่ากระแสข่าวทำให้เสียกำลังใจหรือไม่ นางพวงเพ็ชรยอมรับว่า “มีบ้าง นายกฯบอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่เราก็หวั่นไหว เพราะมีชื่อตลอด แต่ก็ตั้งใจทำงานไปอย่างเดียว เพราะนายกฯบอกว่าภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน ทั้งนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่และนายกฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารจะเห็นว่าใครเหมาะสม” จับตา “จิรายุ” คั่วนั่งโฆษก รบ.คนใหม่ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีล่าสุด มีกระแสข่าวจะปรับทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกฯควบคู่ไปด้วย เพื่อยกเครื่องงานประชาสัมพันธ์นโยบายและผลงานรัฐบาล หลังเปิดกว้างให้ชี้แจงข้อมูลแต่ละกระทรวง หรือตอบโต้ประเด็นที่คลาดเคลื่อนได้โดยไม่ต้องยึดติดว่าต้องเป็นรัฐมนตรีจากพรรคที่ตัวเองสังกัด ปัจจุบันมีนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯจากพรรค พท.และ ๓ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ นายคารม พลพรกลาง จากพรรค ภท. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ จากพรรค พปชร.และ น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกระแสข่าวจะเปลี่ยนโฆษกประจำสำนักนายกฯคนใหม่ เริ่มแรกมีชื่อนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง อดีต สส.เชียงใหม่ พรรค พท. แต่ล่าสุดนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ที่ปรึกษา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและอดีต สส.พรรค พท.มีแนวโน้มสูงที่จะมาทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯคนใหม่ เนื่องจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลมองว่าเหมาะสม“วันนอร์” รับไม่ได้เปลี่ยน ปธ.สภาเมื่อเวลา ๐๙.๑๕ น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ คณะรัฐมนตรีที่โยงถึงการเปลี่ยนตัวประธานสภาฯว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไร การปรับ คณะรัฐมนตรีกับตำแหน่งประธานสภาฯเป็นคนละเรื่อง ส่วนตัวไม่ติดยึดกับตำแหน่งใดๆ ถ้าทำเพื่อประโยชน์ประชาชนทำเต็มที่ แต่ถ้าทำไม่ได้ ไม่ติดยึดพร้อมจะไป ประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ เป็นเสาหลักประชาธิปไตยเป็นกลาง ไม่มีใครมาแทรกแซงได้ ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับฯเกียรติศักดิ์ศรีสภาฯ ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องรักษาไว้ เดินไปให้ตรงแนวทางจะมาบิดๆเบี้ยวๆเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งมันไม่ถูก ประเพณีที่เคยปฏิบัติมาไม่เคยมีการเปลี่ยนตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เครื่องมือพรรคใด ถึงส่งสัญญาณมาก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้ มันไม่มีเหตุใดที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง ถ้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องไปเอง“อ้วน” ยัน พท.ไม่ใช่เจ้าของแต่ต้นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการเปลี่ยนตัวประธานสภาฯว่า เอาข่าวมาจากไหน เมื่อถามว่าพรรค พท.แกนนำรัฐบาลจะเปลี่ยนประธานสภาฯหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่มีอะไร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่สมเกียรติสมหน้าที่ ไม่มีความขัดแย้ง ปฏิบัติต่อ สส.ทุกคนอย่างดี พรรค พท.ไม่ใช่เจ้าของตั้งแต่ต้นยึดคืนไม่ได้ เมื่อถามว่านายกฯอยากให้การทำงานในสภาฯเข้มแข็งขึ้น ถูกตีความว่าอาจจะเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ และมีกระแสให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ไปช่วยงานสภาฯ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่มีๆ การทำหน้าที่ที่เข้มแข็งในสภาฯ ไม่จำเป็นต้องเป็นประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ อยากให้เรื่องนี้ยุติได้แล้ว ขออย่าจินตนาการ เพราะจะไปสร้างความบั่นทอน ปั่นป่วนมากเกินไป“อุ๊งอิ๊งค์” ไม่เคยพูดจะยึดคืนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้มาถามหัวหน้าพรรค พท.เกี่ยวกับกระแสข่าวเปลี่ยนตัวประธานสภาฯว่า ยังไม่มีการพูดคุยจะเปลี่ยนตัวในรายละเอียดมีการปรึกษาอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้จะเปลี่ยนตัว ไม่มีการคุยว่าจะยึดคืน และไม่เคยมี สส.มาพูดคุยอยากให้ประธานสภาฯมาจากพรรค พท.ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีรัฐมนตรีบางคนที่ถูกปรับออกจะกลับมาทำหน้าที่ในสภาฯได้ดีกว่า จึงกลายเป็นกระแสเปลี่ยนตัวประธานสภาฯหรือไม่ น.ส.แพรทองธารตอบว่า เรื่องนี้อยากให้ไปถามนายกฯมากกว่า ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตน เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.รัฐมนตรีที่มีชื่อว่าจะถูกปรับ คณะรัฐมนตรีได้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่ามีการให้ข้อมูลในเรื่องข่าว แต่อยากให้ไปถามนายกฯดีกว่า เมื่อถามว่ารัฐบาลทำงานมา ๗ เดือนแล้ว ถึงเวลาที่จะปรับ คณะรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ได้อยู่ใน คณะรัฐมนตรีไม่ทราบให้ไปถามคนที่ทำงานร่วมกันว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร อยากจะปรับแล้วใช่หรือไม่แจงดราม่าทิ้งสงกรานต์เที่ยวฮ่องกงน.ส.แพทองธารกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์พาครอบครัวบินไปเที่ยวฮ่องกงไม่อยู่ร่วมงานสงกรานต์ ทั้งที่เป็นจุดเริ่มต้นของซอฟต์พาวเวอร์ว่า ความจริงได้อยู่ร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายนแล้ว ไปเปิดงานตามที่ต่างๆและการจัดซอฟต์พาวเวอร์ปีนี้วางยุทธศาสตร์ว่า จะจัดงานแบบไหน กระจายงานให้กระทรวงต่างๆ รวมถึง ททท. นอกจากการเป็นรองประธานซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติและหัวหน้าพรรค พท.แล้ว ตนยังเป็นคุณแม่และภรรยา พยายามทำทุกหน้าที่ให้สุดความสามารถ คิดว่าเป็นช่วงปิดเทอม อยากใช้เวลากับครอบครัว ผู้หญิงทุกคนทราบดีการแบ่งเวลาไม่ได้แบ่งได้ดีทุกวัน ขอความเข้าใจด้วย ขอให้ใจดีกันนิดนึง การทำงานต้องเติมพลังไปด้วย พลังของตนคือครอบครัวจะดราม่าอย่างไรพร้อมรับฟังและทำหน้าที่เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นบทบาทใด ส่วนการโพสต์ภาพครอบครัวพร้อมหน้า ทั้งนายทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นตอนนั่งกินข้าวร่วมกันในงานวันเกิด น.ส.พิณทองทา ชินวัตร พี่สาว เป็นโมเมนต์ของครอบครัวสว.ยกเหตุผลดูงานต่างประเทศนายออน กาจกระโทก สว.ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา วุฒิสภา กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ก่อนหมดวาระวันที่ ๑๐ พฤษภาคม๒๕๖๗ ว่า แล้วแต่จะคิด ในส่วน กมธ.การศึกษา มีโปรแกรมไปดูงานที่เมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน วันที่ ๑๑-๑๖ พฤษภาคมและฟินแลนด์ วันที่ ๒๗ พ.ค.-๓ มิถุนายนเป็นโปรแกรมที่หน่วยงานที่มีสัมพันธไมตรีต่อ กมธ.การศึกษาเชิญมาให้ไปดูงาน เนื่องจากไทยแลกเปลี่ยนนักศึกษากับจีน ไปศึกษาเรื่องระบบรางและการบิน ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ จีนเชิญมาทุกปี ส่วนที่ฟินแลนด์เชิญมาเพื่อไปดูระบบการศึกษาที่มีความก้าวหน้าได้รับความเชื่อถือยอมรับจากทั่วโลกจำเป็นต้องไปไม่ใช่เฉพาะ สว.แต่ สส.ควรไปดูระบบด้วย เพื่อนำไปต่อยอดการเขียนร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติในอนาคต ยืนยันไปศึกษาดูงานจริงๆไม่ได้ไปเที่ยวทิ้งทวน งบฯที่ใช้มาจากงบฯ ปี ๒๕๖๗ ที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไฟเขียวแล้ว แต่ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละ กมธ.หนุนทำประชามติแก้ รธน. ๓ รอบนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทน ราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องที่ให้วินิจฉัยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐสภาส่งไปนั้น ชัดเจนว่าหากจะแก้ไขทั้งฉบับ รัฐสภาแก้ไขได้แต่ต้องทำประชามติก่อน ๓ รอบถึงจะปลอดภัย ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชา มติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ ระบุไว้ หากทำ ๒ รอบอาจขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะตีตก หากไม่ทำประชามติก่อน แล้วมีคนส่งไปตีความอีกจะเสียเวลากกต.เตือนอย่าเสี่ยงฮั้วเลือก สว.เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะก้าวหน้ารณรงค์ให้ประชาชนลงสมัครเลือก สว.ว่า เท่าที่ทราบข่าว ไม่คิดว่าถึงขั้นสุ่มเสี่ยงในขณะนี้ เมื่อถามว่าคณะก้าวหน้าชูนโยบาย ๑ ครอบครัว ๑ สว.ผิดเจตนารมณ์ของการเลือก สว. หรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่าไม่ถึงขั้นมีความสุ่มเสี่ยง เมื่อถามว่า หากมีการรับจ้างสมัครฮั้วเข้าไปเลือกผู้สมัคร สว. นายอิทธิพรตอบว่า ถ้าทำจริงถือว่ามีความผิด ทั้งจำทั้งปรับ และตัดสิทธิทางการเมือง ๑๐ ปี ถ้าตั้งใจจะฮั้วอย่ามั่นใจว่าจะรอด สมัยนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่องทางการตรวจสอบเยอะ อย่าเสี่ยง เมื่อถามว่า แม้เงื่อนไขจะระบุว่าผู้สมัครไม่ให้ลงสมัครในนามพรรคการเมือง หรือเป็นสมาชิกพรรค แต่ในทางปฏิบัติพรรคอาจจะส่งคนมาสมัคร นายอิทธิพรตอบว่ากฎหมายไม่ให้ทำเช่นนั้น ถ้าเรามีหลักฐานต้องรับผิด อย่าเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลย เมื่อถามว่า ถ้าทำผิดเฉพาะผู้สมัครหรือพรรคด้วย นายอิทธิพรตอบว่า ผู้สมัครและมีคำว่าผู้ใดระบุไว้ด้วย คือผู้เกี่ยวข้องทั้งกรรมการบริหารพรรคผู้มีตำแหน่งในพรรค สส.และสมาชิกท้องถิ่นการันตีไม่มียื้อเวลาให้ สว.ชุดเดิมเมื่อถามถึงกรณีหากมีผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อคัดค้านการสมัคร สว.จะเป็นการยื้อเวลาการทำหน้าที่ของ สว.ชุดปัจจุบันหรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เมื่อเราจัดการเลือกระดับประเทศเสร็จแล้วกฎหมายให้รอ ๕ วัน เผื่อการยื่นร้องเรียนภายใน ๓ วัน หลังจากวันที่เลือก กกต.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน ๒ วัน ส่วนกรณีเลือกซ่อมโดยหลักต้องทำให้เร็วจะไม่ทำอะไรที่เป็นการขวาง ณ เวลานี้ไม่คิดว่าจะมีการทำให้เลื่อน การเลื่อนต้องมีเหตุตามกฎหมายและชัดเจน หากมีพระราชกฤษฎีกา เราต้องทำตามตารางไม่ได้คิดเป็นอื่น เมื่อถามว่า หากมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ชะลอการเลือก สว.ไปก่อน นายอิทธิพร ตอบว่า เป็นกระบวนการศาล ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อกฎหมายนั้น ผู้ตรวจฯ มีกระบวนการการพิจารณาอยู่ว่า ควรส่งหรือไม่ควรส่งเรื่อง “ธนาธร” ปลุกสมัคร สว.สู้พวกจัดตั้งที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดวงพูดคุยรณรงค์ หัวข้อ “สว.ประชาชน ย้ำความสำคัญของการเลือก สว.ชุดปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูประชาธิปไตย” โดยนายธนาธรกล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าไม่มี สว.ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยเกิน ๗๐ คน แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ การแกะปมนี้จึงอยู่ในมือทุกคน สว.๒๕๖๗ คือจุดเริ่มต้น หากทำให้มี สว.ฝักใฝ่ประชาธิปไตยไม่ถูกชักจูงด้วยผลประโยชน์อย่างน้อย ๑ ใน ๓ หรือ ๗๐ คนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีโอกาสฟื้นฟูประชาธิปไตยได้ แต่ระบบเลือก สว.ออกแบบมาให้คนดีเด่นดัง ที่ทำงานและมีความรู้ความสามารถด้านนั้นๆ ลงสมัครเพียงลำพัง มีโอกาสตกตั้งแต่รอบแรก คนธรรมดาอย่างพวกเราต้องลงแรง ลงเงินค่าสมัคร ๒,๕๐๐ บาท เพื่อให้มี สว.อิสระมากกว่า สว.จัดตั้ง ถ้าคนลงสมัคร สว.อิสระมากเท่าไหร่ โอกาสที่คนดีเด่นดังจะเข้าไปเป็น สว.ก็มากเท่านั้น ถ้าใครมีศักยภาพค่าสมัครอยู่ในวิสัยที่พอรับได้ไปลงสมัครเถอะทนายชงตีความ ก.ม.เฟ้น สว.ขัด รธน.เมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทนายความอิสระ เข้ายื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา ๔๐ ๔๑ ๔๒ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๗ หรือไม่ เพราะไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันผู้สมัครรับเลือก สว.มีการสมยอมกันในการเลือกกันเอง นายธีรยุทธ กล่าวว่า เมื่อมีข้อบกพร่องหรือข้อบัญญัติอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญการป้องกันเสียก่อนจะเซฟบ้านเมืองไว้ได้ หากการเลือก สว.ขยับไปอีกสักนิดเพื่อรับคำวินิจฉัยคงจะดี เมื่อถามว่าจะเป็นการช่วยยื้อเวลาให้ สว.ชุดนี้อยู่ต่อหรือไม่ นายธีรยุทธตอบว่า ไม่ รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ประชาชนหรือปวงชนชาวไทย มีสิทธิ์เมื่อพบความไม่ชอบธรรม อำนาจอย่างเต็มที่ในการเสนอเรื่องต่อหน่วยงานรัฐ ทุกหน่วยงานและหน่วยงานรัฐจำเป็นต้องฟังเสียงสะท้อนปัญหา ตนเป็นเพียงคนหนึ่งที่เสนอความเห็นเปิดลงทะเบียนซอฟต์พาวเวอร์ มิถุนายนเมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ ๔ ปี ๒๕๖๗ มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ภายหลังการประชุม น.ส.แพทองธารแถลงว่า คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มียุทธศาสตร์ ๓ ข้อ สร้างซอฟต์พาวเวอร์พัฒนาอุตสาหกรรม มีคณะอนุกรรมการ ๑๑ คณะจากภาคเอกชนมาพัฒนาอุตสาหกรรม ทั้งออกแบบนโยบาย แก้ไขกฎหมาย และกำลังตั้งหน่วยงานที่ชื่อ Thailand Creative Culture Agency (THACCA) ผ่าน พระราชบัญญัติที่อยู่ในขั้นตอนรับฟังสาธารณะ ตั้งเป้านำเข้าสภาเดือน มิ.ย. ส่วนนโยบาย ๑ ครอบครัว ๑ ซอฟต์พาวเวอร์ จะเริ่มอบรมทักษะและลงทะเบียนพร้อมกันทุกหลักสูตรในต้นเดือน มิถุนายนได้ทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ ตั้งเป้าปี ๒๕๖๗ จะอบรมออนไลน์ได้กว่า ๒๖๖,๔๐๐ คน อบรมออนไซด์ ๓๐,๐๐๐ คน เช่น อุตสาหกรรมอาหารจะอบรมเชฟอาหารไทย ๑๐,๐๐๐ คน มวยไทย ๖,๐๐๐ คน เป็นต้น “เศรษฐา” ไปภูเก็ตบี้อุโมงค์กะทู้-ป่าตองเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ท่าอากาศยานทหาร ๒ กองบิน ๖ (บน. ๖) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง พร้อม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปตรวจราชการที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อไปถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดคมนาคม นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยรอต้อนรับ โดยนายกฯเดินดูการปรับปรุงท่าอากาศยานฝั่งอาคารผู้โดยสารนานาชาติ ก่อนเข้าประชุมติดตามรับฟังการบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ภูเก็ต จุดนี้นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมด้วย ช่วงหนึ่งนายเศรษฐาได้กล่าวถึงโครงการขุดอุโมงค์ช่วงกะทู้-ป่าตองว่า จริงๆแล้วโครงการนี้ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร งบฯช่วงนั้นแค่ ๘ พันกว่าล้านบาท แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นกลายเป็น ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท แค่ช่วง ๑๐ ปีที่แล้วไม่ใช่แค่รายจ่ายเพิ่มสูงขึ้น งบฯสูงขึ้น แต่มีคนเสียชีวิตไปจำนวนมาก ประเมินค่าไม่ได้ จึงขอเน้นย้ำให้ทำตรงนี้ให้จบให้ได้เร่งโครงการถนนแยกเข้าสนามบินนายเศรษฐากล่าวด้วยว่า เราทราบศักยภาพ จ.ภูเก็ต พยายามยกระดับ ๒ เกาะนี้ให้เป็นเกาะระดับโลก เกาะสมุยติดขัดเรื่องสนามบิน เคยมาสั่งการเมื่อ ๖ เดือนก่อน ขอบคุณทุกคนที่ทำแผนที่เหนือความคาดหมายมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย รวมถึงผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งแผนระยะสั้นที่จะทำให้ถนนสายเล็กไม่ติดขัด ประชาชนจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แผนระยะกลางและระยะยาวที่จะยกระดับการจราจรทั้งเกาะ เช่น การขุดอุโมงค์ที่ต้องอนุรักษ์อนุสาวรีย์ไว้ ๖ เดือนทำมาได้เท่านี้ถือว่าดีมากถือเป็นดรีมทีมอยู่แล้ว ขอให้ทำงานให้ดีเพื่อประชาชนต่อไป อยากให้ไปดูแนวทางที่เกาะมัลดีฟส์ที่มี seaplane (เครื่องบินน้ำ) หากนำมาเชื่อมเกาะในไทยจะเป็นเรื่องดี ต่อมาเวลา ๑๑.๑๐ น. นายเศรษฐาตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ (ทางเลี่ยงเมือง) ตอนบ้านเมืองใหม่-แยกเข้าสนามบิน ระหว่าง กม.๑๘+๘๕๐—กม.๒๐+๘๐๐ อ.ถลาง นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง รายงานว่า รัฐบาลมอบงบฯปี ๖๘ มาก่อสร้างให้ทันภายในปี ๖๙ จะมีการก่อสร้างในเดือน พฤศจิกายนปีนี้ แต่นายกฯขอให้เริ่มโครงการเร็วขึ้นเป็นเดือน ต.ค.“ขิง” แจมมื้อเที่ยงนายกฯชี้ไร้การเมืองผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ร้านอาหารกินดี จ.ภูเก็ต ที่นายเศรษฐา และคณะแวะพักทานอาหารเที่ยง ปรากฏว่านายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาร่วมทานอาหารด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นเวลา ๑๓.๑๔ น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีเลขาธิการพรรค รทสช. ร่วมทานอาหารกลางวัน ไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม. พูดคุยเรื่องปัญหาบ้านเมืองอย่างเดียว อยากจะทำให้ จ.ภูเก็ตดีขึ้น และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้สมัคร สส.มีปัญหาอะไร อยากยกระดับอะไร โดยนายเอกนัฏอยากให้ส่งเสริมวอเตอร์แท็กซี่ (แท็กซี่ทางน้ำ) จะบรรเทาการจราจรใน จ.ภูเก็ต เป็น เรื่องที่ดีน่าสนับสนุน อย่ามองว่าเป็นพรรคไหนเป็นใครเลยดีกว่า เรามาช่วยกันพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเกาะที่มั่งคั่งมั่นคง เชื่อว่าทุกภาคส่วนมาร่วม มีจุดหมายเดียวกันเป็นทีมไทยแลนด์สั่งยกระดับความมั่นคงในพื้นที่จากนั้นเวลา ๑๒.๓๐ น. ที่กองบัญชาการตำรวจ ภูธรภาค ๘ นายเศรษฐา พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการ ผบ.ตร. และคณะไปมอบนโยบายแก่ ผกก.สภ.ในพื้นที่ บช.ภ. ๘ โดยนายกฯ มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า มาภูเก็ตเป็นครั้งที่ ๓ รัฐบาล ต้องการพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อมีความมั่งคั่งถ้าไม่มีความมั่นคงจะพังทลาย ปัญหายาเสพติด ๖ เดือน ที่ผ่านมา จับยาเยอะมาก แต่ยาบ้าไม่ลดลง ที่ตั้ง KPI มาต่ำไปเยอะ ต้องจัดการให้มากกว่านี้ จับกุมมารายเล็กทำไมไม่จับรายใหญ่ ส่วนการพนันออนไลน์ ตัวเลขจับกุมยังน้อยอยู่ขอให้เร่งจับกุมต่อไป หนี้นอกระบบมะเร็งร้ายของสังคมจุดเริ่มต้นหายนะ อยากให้ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองจัดตลาดนัดแก้หนี้ อย่าให้มีการข่มขู่ลูกหนี้ กระทรวงการคลังจะช่วยดูแลกระแสเงินสด ถ้าจบสัมมนาวันนี้แล้ว ขอให้ไปสุมหัวช่วยกันคิดว่าจะทำให้แข็งแรงขึ้นอย่างไร ยางพาราก็สำคัญชายแดนไทยติดพม่า ๒,๐๐๐ กว่ากิโลเมตร ด่านใหญ่สกัดอยู่ เขาจึงลักลอบนำเข้ายางเถื่อนตามตะเข็บชายแดน ขอให้เข้มแข็งขึ้นไม่ต้องการน้ำผึ้งหยดเดียวทำพังนายเศรษฐากล่าวว่า การป้องกันการกระทำผิดของคนต่างชาติสำคัญ มีเครือข่ายด้านธุรกิจทำตัวนอกเหนือกฎหมาย ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลลงทุนที่ภูเก็ตเป็นแสนล้าน แต่ถ้ามีการกระทำไม่เหมาะสมเกิดขึ้นกรณีเดียวจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำมาหากินไม่ถูกต้อง ที่ลงทุนมาจะพังพินาศได้ ขอให้ช่วยกันดูให้ดีเราลงทุนไปสูง ไม่อยากให้น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นปัญหาทำเสียหาย ขอฝากผู้สมัคร สส.เป็นหูเป็นตา อย่าให้การลงทุนสูญเปล่า อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนการก่อเหตุทะเลาะในสวนน้ำแห่งหนึ่งในภูเก็ต แต่เรื่องเงียบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ใครเกี่ยวข้องไปเอาความจริงมาให้ได้ เรื่องไปอยู่ที่รัฐสภาแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่าจับแต่รายย่อย จับรายใหญ่ให้ได้สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าไทยบังคับใช้กฎหมายถูกต้องเป็นธรรมเคร่งครัด เรื่องที่หนักใจคือการประกอบธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมาย เป็นโชคไม่ดีของฝ่ายความมั่นคงที่เป็นปลายน้ำมาดูแลใบอนุญาตที่ไม่ถูกต้อง ดูแลทางหนีไฟ ถ้าเกิดเหตุจะเป็นประเด็นอีก ส่วนการขาดแคลนน้ำประปา จะเอาน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานผ่าน จ.กระบี่ พังงามาใช้ที่ภูเก็ต ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่ ใช้พาสปอร์ตเป็นหลักฐานเช่ารถ พอถูกตำรวจจับกุมไม่มีเอกสารยืนยัน กฎหมายต้องมาก่อน ถ้าเขาจะไม่มาเพราะเราเข้มข้นไม่เป็นไร เราต้องการนักท่องเที่ยวที่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยศึกษา ๓ เดือนดึงน้ำเขื่อนเชี่ยวหลานจากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข่าวการร่วมเพศกลางทะเลที่หาดป่าตอง เป็นเรื่องความเหมาะสม ต้องเคารพวัฒนธรรมอันดีของประเทศ ไทย หากทำผิดต้องสั่งลงโทษทันที ไม่มีข้อยกเว้น เกาะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีศักยภาพสูง เราจะยกระดับขึ้นไปอีก เมื่อถามถึงการนำน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำที่เกาะภูเก็ต นายกฯตอบว่า เพิ่งสั่งการไปในที่ประชุม คณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ศึกษา ๓ เดือน แล้วจะมีรายละเอียดชัดเจน ยืนยันจะคืบหน้าแน่นอน ถ้าจะยกระดับภูเก็ตโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งประปา ไฟฟ้า ถนนเราให้ความสำคัญ ขณะที่ปัญหาจราจรใน จ.ภูเก็ต สะพานสารสิน อยู่ระหว่างการศึกแนวทาง เพื่อให้เรือยอชต์วิ่งรอบเกาะได้ การเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตัวเมืองไปสนามบินบางวันใช้เวลาถึง ๒ ชั่วโมง จึงสร้างทางคู่ขนาน ขุดอุโมงค์ สร้างทางเล็กๆระบายการจราจร มั่นใจว่าการจราจรที่ จ.ภูเก็ตต้องดีขึ้น๒.๓ พันล้านแก้จราจรติดขัดต่อเวลา ๑๔.๐๐ น.นายเศรษฐาไปที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร อ.ถลาง รับฟังรายงานสรุปโครงการทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข ๔๐๒ กับทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ (ทาง เลี่ยงเมือง) (แยกท่าเรือ) ลดปัญหาจราจรติดขัด อำนวย ความสะดวกการเข้าสู่เมืองภูเก็ตและสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่ วงเงินงบฯ ๒,๓๘๐ ล้านบาท นายกฯได้สำรวจสถานที่ก่อสร้างจริง ดูสภาพปัญหาจราจรรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ฯ จากนั้นได้ถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาต้อนรับ ทั้งนี้ ระหว่างนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้ใช้รถยนต์ โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน ขง ๔๔๗๗ ภูเก็ต ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในจุดต่างๆอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
"อุ๊งอิ๊งค์-ภูมิธรรม" โต้ลั่นปัดจ้องฮุบโควตาประธานสภา "จิรายุ" เสียบโฆษกรัฐบาล
Related posts